26/8/52

Raspberry crème brûlée

วันนี้เกดทำ Raspberry crème brûlée เครมบูเล่ เป็นขนมที่อยู่ในกลุ่มของหวานพวกพุดดิ้งและคัสตาร์ดค่ะ เนื้อของเครมบูเล่นี้จะเหลวกว่าคัสตาร์ดทั่วไปอยู่สักหน่อยนะคะ แต่เอกลักษณ์สำคัญของเจ้าขนมชนิดนี้คือ ผิวหน้าจะมีน้ำตาลคาราเมลกรอบ ๆ ที่เคลือบบาง ๆ บนผิวหน้าขนมที่นุ่มๆ อบ่างเครมบูเล่ ซึ่งคำว่า brûlée ในภาษาฝรั่งเศส หมายถึง การไหม้ (burnt) นั่นเองค่ะ

วันนี้เกดเองก็ยังใช้สูตรจาก หนังสือ Bakery in my heart Vol. 2 ของ คุณตุ๊ก ณชนกช์ ปัญญาหิตานนท์ นะคะ เมื่อวานเกดก็ไปซื้อเจ้าลูก ราสเบอร์รี่มาค่ะ มาทำความรู้จักกับผลไม้ชนิดนี้กันสักนิดนะคะ




Photobucket


Raspberry หรือ ราสเบอร์รี่ ในภาษาไทย เป็นผลไม้ที่อยู่ในวงศ์ Genus Rubus Subgenus Idaeobatus ส่วนชนิดย่อยหรือ Species ยังแยกย่อยออกไปได้อีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น
Rubus arcticus (Arctic Raspberry)
Rubus crataegifolius (Korean Raspberry)
Rubus idaeus (European Red Raspberry)
Rubus leucodermis (Whitebark or Western Raspberry, native: Blue Raspberry)
Rubus occidentalis (Black Raspberry)
Rubus odoratus (Flowering Raspberry)
Rubus phoenicolasius (Wine Raspberry or Wineberry)
Rubus strigosus (American Red Raspberry) (syn. R. idaeus var. strigosus)
ราสเบอร์รี่ส่วนใหญ่ในไทยเป็นผลไม้ที่นำเข้าค่ะ ราคาจึงยังสูงอยู่ แต่ว่าผลไม้ชนิดนี้มีสรรพคุณเยอะทีเดียวค่ะ เท่าที่อ่านมาก็จะมีสาร Polyphenol ซึ่งเป็นสาร Antioxidants ตัวอย่างของสารนี้ก็เช่น Anthocyanin pigments ค่ะซึ่งจะช่วยให้ร่างกายช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ได้ดีค่ะ เป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง มีสูงถึง 20% ของน้ำหนักของราสเบอรี่เลยนะคะ ในราสเบอรี่ 1 ถ้วยตวง มีวิตามินซีถึง 30 mg ซึ่งเป็นปริมาณ 50% ของที่ร่างกายต้องในแต่ละวัน มีแมงกานีสสูง ไฟเบอร์สูง และก็ยังมี Vitamin B 1-3, folic acid, magnesium, copper และ ธาตุเหล็ก ถือว่าราสเบอร์รี่อยู่ในลำดับต้นๆ ของผลไม้ที่ให้สาร แอนตี้ออกซิแดนท์สูงเลยค่ะ อิอิ... ช่วยชลอวัยด้วย ใครอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านเพิ่มเติมจาก วิกิพีเดีย ราสเบอร์รี่ คลิ๊กจากตรงนี้ได้เลยค่ะ




Photobucket



สำหรับส่วนผสมของ ราสเบอร์รี่เครมบูเล่นี้มีไม่กี่อย่างเองนะคะ แต่ละอย่างในครัวของคนที่รักการทำขนมอย่างเพื่อน ๆ น่าจะมีอยู่แล้วค่ะ มาดูส่วนผสมกันเลยนะคะ สูตรนี้สำหรับ 5 ถ้วย (Remekin เบอร์ 3)

ส่วนผสม Raspberry crème brûlée
1. วิปปิงครีม 250 กรัม
2. วานิลลา 1/2 ฝัก หรือ กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
3. ไข่แดง (เบอร์ 1) 4 ฟอง
4. น้ำตาลทราย 45 กรัม
5. ราสเบอร์รี่สด ตามชอบ

สำหรับใครที่ไม่อยากอ้วนมาก็ปรับส่วนผสมของวิปปิงครีมลงนิดหน่อยได้นะคะ โดยเติมส่วนผสมของนมสดเข้ามาแทนก็ได้ค่ะ แล้วถ้าไม่ใส่ราสเบอร์รี่ก็สามารถ ลดน้ำตาลได้อีกนิดหน่อยค่ะ สูตรนี้อาจหวานไปนิดนึงสำหรับคนไม่ชอบหวาน แต่ทานแล้วลงตัวได้ดีกับราสเบอร์รี่เปรี้ยว ๆ ค่ะ




Photobucket


ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากนะคะ เริ่มจาก นำวิปปิงครีมใส่หม้อ ใส่ฝักวานิลลาที่ผ่าครึ่งแล้วกรีดเม็ดออก นำไปตั้งไฟกลางจนเดือด




Photobucket


ระหว่างที่รอครีมเดือดก็ ไปเตรียมไข่แดงกับน้ำตาลทราย ในอ่างผสมอีกใบ วันนี้ได้ไข่ใหม่มากๆๆๆ พ่อค้ารู้ใจค่ะ ไข่ตอกออกมาไข่ขาวไม่ยอมแยกจากไข่แดงเลยค่ะ




Photobucket


จากนั้นก็ตีให้เข้ากันค่ะ แล้วก็พักไว้ก่อนนะคะ รอให้วิปปิงครีมเดือด




Photobucket


ครีมที่ตั้งไว้ก็จะเริ่มเดือดแล้วค่ะ อย่าปล่อยให้เดือดนานนะคะ เดี๋ยวจะเป็นฝ้าของครีมค่ะ




Photobucket


จากนั้นก็เทครีมที่เดือดลงไปในอ่างไข่แดงเลยนะคะ คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือค่ะ คนไปในระหว่างที่เทครีมลงไปเป็นสายอย่างช้า ๆ ค่ะ




Photobucket


ส่วนผสมจะมีสีอ่อนลงนะคะ ตอนนี้จะเห็นว่ามีฟองอากาศอยู่เยอะเลยค่ะ เนื่องจากการคน ควรตั้งส่วนผสมพักไว้นาน 15-30 นาทีนะคะ ตอนนี้ไปเปิดเตาอบได้เลยนะคะ ที่อุณหภูมิ 120 องศาเซลเซียสค่ะ




Photobucket


ระหว่างที่รอเทส่วนผสมก็ เตรียมถ้วย Remekin หรือถ้วยที่ทนไฟได้เลยนะคะ เกดใช้ขนาดเบอร์ 3 ค่ะ ประมาณ 5 ใบ ถ้าใครใช้ใหญ่กว่านี้ก็ได้นะคะ ไม่มีปัญหา แต่อาจต้องเพิ่มจำนวนส่วนผสมเป็นสองเท่าค่ะ เพราะถ้วยนี้เล็กนิดเดียวเองค่ะ แล้วก็เตรียมถาดอบขนมทรงสี่เหลี่ยมที่มีก้นลึก 1.5 นิ้ว นะคะสำหรับใส่น้ำตอนอบ ครบเวลาก็ช้อนฟองออกจากส่วนผสมก่อนนะคะ แล้วก็เทแบ่งลงในถ้วยเลยค่ะ แล้วก็ใส่ราสเบอร์รี่ตามชอบเลยค่ะ ของเกดใส่ได้ 3 ลูกก็เต็มแล้ว .... ถ้วยมันเล็ก




Photobucket


นำเข้าอบบนถาดรองน้ำ นาน 25-30 นาที หรือดูว่าใช้ได้โดยใช้นิ้วแตะผิวหน้าดูแล้วไม่มีเนื้อขนมติดมา เป็นอันว่าใช้ได้ค่ะ แต่จะรู้สึกว่าขนมยังกระเพื่อมอยู่นิด ๆ นะคะ จะไม่แข็ง จากนั้นรอให้เย็นแล้วนำไปแช่ตู้เย็นนาน 2-3 ชั่วโมงเพื่อให้เครมบูเล่เซตตัวค่ะ




Photobucket


เวลาที่เราจะทานนะคะ ก็นำมาโรยด้วยน้ำตาไอซิ่งค่ะ.... ไหม้ง่ายดีค่ะ โรยน้ำตาลจนทั่วเลยนะคะ แล้วใช้ Blow Torch พ่นไฟจนน้ำตาลเปลี่ยนสีเป็นน้ำตาลไหม้ค่ะ ถ้าใครชอบหน้าแบบกรอบๆ เยอะหน่อยก็ โรยน้ำตาลไอซิ่งได้อีกสักสองรอบนะคะ แล้วพ่นไฟซ้ำแบบเดิม คราวนี้กรอบสะใจเลยค่ะ แล้วก็ทานเลยนะคะ จะได้รสสัมผัสแบบหวานกรุบกรอบ ที่มีเนื้อคัสตาร์ดนุ่มๆเย็น ๆ ข้างในค่ะ ทานแล้วต้องอยากทานเพิ่มแน่ ๆ ค่ะ




Photobucket


หวังว่าวันนี้ คงได้ทาน Raspberry crème brûlée อร่อย ๆ กันทุก ๆ คนนะคะ รสชาติ กรอบ เปรี้ยว หวาน และนุ่ม อย่าลืมทดลองทำกันนะคะ

Special Thanks To.....
1. หนังสือ Bakery in my heart Vol. 2 ของ คุณตุ๊ก ณชนกช์ ปัญญาหิตานนท์
2. น้องจิ๊บ Iyada ที่ช่วยพี่เกดหา France Font เพื่อพิมพ์ ภาษาฝรั่งเศสนะคะ




Photobucket

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น