เดินทางมาถึงตอนที่ 3 แล้วนะคะ วันนี้เป็นวันที่ 3 ของการเรียน
ดอกไม้ที่มี๊เรียนวันนี้มี Ranunculus, Crysanthemum, Peony, Lisianthus, Berry
วันจันทร์ของที่เกาหลี ... ไม่มีอาจุมม่าทำกับข้าวให้ทาน
ที่โรงแรมเป็น Business Hotel วันจันทร์ก็เลยดูเหมือนเป็นวันที่เงียบเหงา
แขกทยอยเชคเอาท์กันออกไป แขกใหม่ก็ยังไม่ได้เข้ามา
เช้านี้อาหารตอนเช้าก็จะเป็นคอร์นเฟลค ขนมปัง นม กาแฟ
ส่วนข้าวเช้าที่เคยมีก็กลับกลายเป็นมาม่าเกาหลี .... กรี๊ดดดดดด เอาข้าวเช้าชั้นคืนมา
วันนี้มี๊เลยอาศัยขนมปังปิ้งเป็นข้าวเช้า
เช่นเดิมเหมือนกิจวัตรทุก ๆ วัน คุณครูก็มารับที่โรงแรม
ไปถึงสตูดิโอก็ตีครีม มี๊ก็คุยกับลูกตามเรื่องตามราว
ครีมเสร็จก็เริ่มบีบกุหลาบเช่นเดิม
... แต่เหมือนหายนะมาเยือน บีบไม่ได้
อร๊ากกกกก
ทำยังไงก็บีบไม่ได้ชะรอยวันนี้จะเป็นวันมือตก พี่สาวที่ไปด้วยกันก็เป็นเหมือนกับมี๊เลย
บีบไม่ได้กันทั้งคู่ นั่งมองหน้ากันตาปริบ ๆ เป็นอะไรไปกันทั้งคู่
นั่งมองหน้ากันสักพัก ครูก็คงจะงงว่าอิป้าสองคนเป็นอะไร
มี๊ก็พูดกับพี่สาวว่า สงสัยเป็นเพราะว่าเราไม่ได้กินข้าวเช้ากันแน่ ๆ
ปกติจะซ้อมกันประมาณ 2-3 ดอกก็ผ่านแล้ว วันนี้ปาไป 7 ดอก
ครีมก็เริ่มจะไปแล้ว อิสองป้าก็ยังไม่ได้เลยบอกกับครูว่าไปบีบดอกอื่นเถอะ
ถ้าจะรอให้บีบได้วันนี้อาจจะไม่ได้เรียน คิดถึงตอนที่เวลาสอนแล้วนักเรียนบีบไม่ได้ เค้าคงมีความรู้สึกแบบเดียวกับมี๊แน่ ๆ
พอเริ่มของวันบีบไม่ได้ก็เหมือนจะเป็นวันซวยมาเยือน เริ่มดอกแรกเป็น
เรนันคูลัส ดอกนี้อาจไม่คุ้นหูกับใครหลาย ๆ คนนะคะ
เรนันคูลัสเป็นดอกไม้กลีบบางมีหลากหลายสีค่ะ บางครั้งที่เชียงใหม่จะมีขายนะคะ
ร้านที่กาดดอกไม้จะนำเข้ามาจากคุนหมิงค่ะ ราคาไม่สูงมากกำนึงประมาณ 200-300
บาท
นำมาจัดเป็นได้แจกันนึงเต็ม ๆ ค่ะ
เครดิตภาพจากกูเกิลนะคะ
พอมาบีบเป็นบัตเตอร์ครีม ก็จะเป็นสไตล์นี้ค่ะ
อาจจะต้องรอดูเวลาที่เราบีบสีเข้าไปจะเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากกว่านี้นะคะ
มาถึงเวลานี้ สองป้าก็ยังคงมือตก จนครูต้องหาของเบรคมาให้
เป็นวาฟเฟิลชุบชอคโกแลตกับกาแฟร้อน
พอมือตกก็เหมือนว่าอะไรไม่ได้ดั่งใจเลยสักอย่าง พอเริ่มบีบแรกไม่ได้
ดอกที่สองและดอกต่อ ๆ ไปก็กลายเป็นว่างง สมงสมองไม่รับอะไรใหม่เลย ครูสอนให้บีบ Peony
(โบตั๋น)
ไอ้เราก็บีบเป็นอะไรไปก็ไม่รู้ ครูสอนทั้งโบตั๋นแบบตูม และแบบบาน
เอาภาพแบบบานมาให้ ที่เห็นลิบ ๆ อยู่ด้านหลังเป็นของครู ดอกด้านหน้าที่เละ ๆ
นี่มี๊บีบเอง 5555
Crysanthemum หรือว่าดอกเบญจมาศ ปกติก็บีบอยู่
มาเจอของครูวันนี้ถึงกับงง ซ้อนกันเป็นสิบชั้น โอ้แม่เจ้า ... บีบไปก็บ่นไป
ปาดทิ้งไปหลายรอบ ครีมเหลวบีบไม่ได้ต้องเอาไอซ์แพคมารอง .... ทำแล้วก็ไม่สวยถูกใจครู น้ำตาตกใน ดีที่สุดได้เท่านี้ วันนี้เหมือนมี๊จะถอดใจเลยจริงๆ
ถึงจะเซ็งจะถอดใจยังไงก็ตาม กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง
คิดอะไรไม่ออกก็ต้องทานข้าว วันนี้ทานข้าวเนื้อบุลโกกิ ... อัดข้าวเข้าไป
เผื่อชีวิตจะดีขึ้น
ใบสีเขียวๆ ที่อยู่บนข้าวคือใบงานะคะ ที่เกาหลีนิยมทานกับเนื้อย่าง
ไปที่ร้านไหนจะต้องเจอผักสลัดกับใบงาค่ะ
แอบถ่ายของครู ครูก็สั่งเป็นจัมปงแต่ไหงสีมันไม่ได้แดงเลือดสาดเหมือนของมี๊ที่สั่งเมื่อวาน
ถามครู...ครูตอบว่าอันนี้แบบปกติ ของที่สั่งเมื่อวานเป็นแบบเผ็ด ฮือออออ ...
โหยหวนหนักมาก ก็มันเผ็ดจริงๆ นี่คะ
ทานข้าวเสร็จก็เหมือนพอจะมีอะไรดีขึ้นมาบ้าง ....
แต่ก็ยังไม่ดีเช่นเดิม งานบีบเป็นไปได้ช้าจนต้องวางทั้งมือถือ วางทั้งกล้อง
ตั้งหน้าตั้งตาบีบอย่างเดียว พยายามแม้ว่าจะไม่ดี ครูมาช่วยบีบกุหลาบไว้ให้
บีบมัมไว้ให้ บีบให้ประมาณ 5-6 ดอก จากนั้นก็ถึงเวลาจัด
วันนี้จัดเป็นแบบทรงกลมเต็มหน้าเค้ก
เค้กวันนี้เป็นเค้กจริงค่ะเป็นสปองจ์เค้ก
ซึ่งในสูตรที่ครูให้ก็จะไม่ใส่เอสพี ไม่ใส่โอวาเล็ต ตอนที่จัดดอกไม้ลงบนเค้กมี๊ก็พยายามเลี่ยงไม่ใช้ของที่ครูบีบไว้ให้
ใจแบบว่าไม่สวยไม่เป็นไร ชั้นขอเอาของชั้นเอง
เวลาที่ดอกไม้มาอยู่รวมๆกันมันก็จะดูสวยไปเองนั่นแหละ 555 เข้าข้างตัวเอง
มุมไหนที่มันบาน เราก็วางไว้ด้านล่าง มุมที่ไม่บานก็จะโดนอีกดอกมาทับ
ดูกลมกลืนไปโดยปริยาย
ดอกมัมเจ้าปัญหาเวลาเอามาวางแล้วก็พอดูกลมกลืนไป
หากได้กลับมาฝึกอีกหน่อยน่าจะดูดีกว่านี้ ไลเซียนทัสสีม่วงเข้มก็ดูลึกลับดี
เรนันคูลัสสีม่วง โคลสพีโอนี่ โอเพนพีโอนี่สีชมพู ทำเองจ้า
แต่กุหลาบที่สวยๆ ไม่ได้ทำเองนะคะ
อันนี้เป็นของพี่สาวที่ไปเรียนด้วยกัน สีฟ้าคลาสสิค สวยเนอะ
กับผลงานวันนี้ทำเองจริงๆ แค่ประมาณ 75% อีก 25%
ครูช่วยชีวิตไว้ด้วยดอกกุหลาบ
ถ้าไม่มีอาจจะไม่ได้กลับบ้านเป็นแน่ ซึ่งจริงๆวันนี้ก็กลับเลตค่ะ เสร็จประมาณ 6
โมง
รอครูล้างของอีกครึ่งชั่วโมง ก็หกโมงครึ่งเลิกค่ำหว่าทุก ๆ วัน ตอนทีไ่ปเกาหลีกว่าที่จะเห็นว่าฟ้ามืดก็ประมาณสองทุ่มค่ะ
ระหว่างนั้นก็ช่วยเช็ดโต๊ะ ช่วยเก็บของ
ครูมาส่งที่แถวร้านอาหารก็เกือบทุ่มกว่าๆ บรรยากาศโดยรอบมืดกว่าทุก ๆวัน
วันนี้เลยทานชาบูย้อมใจกัน อารมณ์แบบคอตก มือตกค่ะ
ชาบูที่เราเลือกก็จะเป็นเนื้อกับทะเล ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ 19,000 วอน ก็ประมาณ 630
บาท
น้ำฟรีค่ะ
น้ำซุปจะมาเป็นเนื้อกับทะเลนะคะ ชิมแล้วก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ 555
ประสาททางการรับรสดับอนาถค่ะ
ความเครียดเข้ามาเยือน
ทางร้านเค้าก็ดีนะคะ นำเนื้อมาใส่ไว้ให้จะได้รู้ว่าอันไหนเป็นสำหรับน้ำซุปเนื้อ ผักหน้าตาคล้ายผักสลัด
ไม่รู้ว่าเป็นผักอะไรอร่อยดีค่ะ ใบหยิก ๆ แบบนี้นึกถึงเคลค่ะ
ซุปเปอร์ฟู๊ดเลยนะนั่น แต่ถามใครก็คงไม่ได้คำตอบ รู้แต่ว่าอร่อย
ผักมาเยอะมากเรียกว่าทานหมดนี่อิ่มมากจริงๆ
ส่วนที่เป็นของทะเลก็มาเป็นจานค่ะ มีหอยมาให้ทานอีกแล้ว ...
มีเป๋าฮื้อด้วย
ในร้านอาหารเกือบทุกที่จะมีไวไฟให้ใช้ค่ะ
เราสามารถขอรหัสผ่านเค้าได้นะคะ นี่เป็นสาเหตุนึงที่ไม่ได้เช่าพอคเกตไวไฟค่ะเพราะว่ามี๊ไม่ได้เดินทางไปไหนเลย
อยู่แต่ที่โรงแรม สตูดิโอครู และก็ร้านอาหาร
น้องสาวมี๊ถามว่าได้ทานปลาหมึกหรือยัง ที่เป็น ๆ แล้วราดน้ำมันงา
มี๊หาไม่เจอค่ะ
ร้านแบบนั้นก็เลยได้แต่คีบหมึกตัวเล็กที่ต้มสุกแล้วถ่ายรูปไปให้น้องดูแทนค่ะ
หมึกเหมือนกันเนอะ
หลังจากที่ทานข้าวเสร็จก็เดินกลับโรงแรมค่ะบรรยากาศตอนนั้นมืดเลยค่ะ ประมาณสองทุ่มนิดๆ แต่ก็ไม่เปลี่ยวหรือว่าอันตรายนะคะ มีคนออกมาเดินออกมาวิ่งออกกำลังกายกันค่ะ เดินไปก็บ่นกันไปถึงการที่วันนี้เราบีบไม่ได้ค่ะ ... สรุปสาเหตุกันว่าคงไม่ได้ทานข้าวเช้าเป็นแน่
เพราะว่าทุกเช้าเราจะทานข้าวกันจากโรงแรมก่อน ยังพูดติดตลกกันเลยว่า
เดี๋ยวคอยดูพรุ่งนี้นะว่าจะเป็นยังไง ถ้าอยากรู้ว่ามี๊จะออกจากวังวนของการบีบไม่ได้ได้หรือไม่ต้องติดตามนะคะ
ถึงโรงแรมวันนี้ส่งการบ้านให้ผู้ออกทุนให้
... มีคำชมมาว่า สวยขึ้น ไม่เหมือนที่เคยทำ มี๊ก็ยิ้มแก้มปริสิคะ
ไปเรียนอะไรที่ไหนมา ทั้งงานปั้นงานบีบก็ไม่เคยจะเห็นชมสักที
ชมแบบนี้อาการหดหู่จากการบีบไม่ได้ หายไปเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ
กำลังใจจากคนข้างตัวนี่มันเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจจริง ๆ นะคะ เวลาที่เรามีความทุกข์เราได้รับฟังคำพูดดี
ๆ จากคนที่เรารัก เป็นห่วงเป็นใยเรา มันก็จะทำให้หลายๆสิ่งดีขึ้นจริง ๆ ค่ะ ….
วันนี้คุณพูดสิ่งดี
ๆ กับคนรอบข้างหรือยังคะ แล้วเจอกันตอนที่ 4 นะคะ
มีความสุขในทุก ๆ วันนะคะ