23/2/53

Chicken Farm Baker's Project # 19 : Verrines,Trendy&Luxury in a glass, EASY BCP




Chicken Farm Baker's Project # 19 : Verrines,Trendy&Luxury in a glass, EASY BCP


โฮสต์เดือนนี้เป็น น้องก้อย Bake-aholic ค่ะ ให้สร้างสรรขนมที่อยู่ในแก้ว พร้อมกับขนมที่ประกอบไปด้วยส่วนประกอบไม่ต่ำกว่าสามชนิด และต้องใช้เตาอบด้วย งานนี้เล่นเอามึนต่ะ แต่ว่ามีเหรอที่เกดจะทำของยาก ๆ แหะๆ เกดเลยทำขนมง่าย ๆ อย่าง " บลูเบอร์รี่ชีสพาย " แต่ว่าจับมาลงแก้วซะ แค่นี้ก็ได้ทั้งความ Trendy & Easy ตามสไตล์เกดแล้วค่ะ





Easy Blueberry Cheese Pie : คุกกี้เนย + ครีมชีส + โฮมเมดบลูเบอร์รี่ซอส + บลูเบอร์รี่เยลลี่ แล้วนำมาจัดเรียงลงในแก้วอย่างที่เราต้องการค่ะ สำหรับใครที่ชอบทานแบบเบา ๆ ขึ้นมาอีกนิดอาจจะทำอย่างเกดก้ได้นะคะ เพราะว่าในชั้นที่เป็นครีมชีสชั้นที่ 2 เกดลดปริมาณของครีมชีสลง เพื่อให้ชั้นนี้เบาขึ้นอีกค่ะ


นำไปแช่เย็น ๆ แล้วเอามาทานแค่นี้ก็ชื่นใจค่ะ ได้ทั้งความหวานมันอมเปรี้ยวนิดๆจากครีมชีสที่ตีเบาฟูผสมกับวิปครีม ความกรุบกรอบจากคุกกี้เนยหอมๆ โฮมเมดบลูเบอร์รี่ซอสรสชาติเปรี้ยวหวาน ความหนึบ ๆ จากเยลลี่บลูเบอร์รี่





Easy BCP : Easy Blueberry Cheese Pie


สำหรับ 6 แก้ว (ขึ้นอยู่กับขนาดของแก้ว)


ฐานพาย


คุกกี้เนย 200 กรัม


เนยจืดละลาย 80 กรัม


เกลือ 1/8 ช้อนชา


ขั้นตอนการทำ


เริ่มจากการทำคุกกี้เนยนะคะ หรือว่าใครจะใช้คุกกี้สำเร็จรูปก็ได้ค่ะ เกดไม่มีสูตรลงให้นะคะเพราะว่าคุกกี้ที่ใช้วันนี้เป็นคุกกี้ที่ทดลองสูตรค่ะ แต่ว่าทานแล้วยังไม่โดนเท่าไหร่ค่ะ เอาคุกกี้มาทุบพอหยาบ ๆ เวลาทานจะได้เนื้อสัมผัสกรุบกรอบค่ะ


จากนั้นจึงใส่เนยละลายใส่พอให้คุกกี้ดูเหมือนทรายเปียก เติมเกลือ คลุกให้เข้ากัน จากนั้นนำไปอบที่ 180 องศาเซลเซียส อบนาน 8-10 นาที เวลาอบก็แค่ไปเกลี่ยให้กระจายบนถาดอบก็พอค่ะ ไม่ต้องกดให้แน่นเหมือนฐานพาย ใครที่ชอบ Crumle ก็ปรับมาใช้แทนก็ได้นะคะ อบเสร็จก็รอให้เย็นแล้วบิเป็นชิ้นหยาบๆ





ครีมชีส แบบที่ 1


ครีมชีส 250 กรัม


วิปครีม 100 กรัม


น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ


เจลาตินแผ่น 1/2 แผ่น


นมข้นหวาน 4 ช้อนโต๊ะ


ครีมชีสแบบที่ 2


ครีมชีส 100 กรัม


วิปครีม 250 กรัม


น้ำเลมอน 1 ช่อนโต๊ะ


เจลาตินแผ่น 1/2 แผ่น


ขมข้นหวาน 4 ช้อนโต๊ะ


ขั้นตอนการทำ


แช่เจลาตินในน้ำเย็นเพื่อให้เจลาตินนิ่ม


ตีครีมชีสให้ขึ้นฟูเบา จากนั้นใส่วิปครีมตีให้เข้ากัน ใส่นมข้นหวาน ชิมรสหากไม่หวานก็สามารถใส่นมข้นหวานเพิ่มได้


นำน้ำเลมอนใส่ถ้วยแก้ว นำไปต้มในไมโครเวฟประมาณ 10 วินาที แล้วใส่เจลาตินที่เตรียมไว้ คนให้เจลาตินละลาย นำไปผสมกับครีมชีสที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน


สำหรับแบบที่ 2


ก็ทำคล้าย ๆ กับที่ 1 นะคะ แต่ว่าแบ่งวิปครีมเป็นสองส่วน ส่วนแรกนำไปผสมกับครีมชีสเหมือนแบบที่ 1 อีกส่วนนำไปตีจนตั้งยอดอ่อน จากนั้นจึงนำมาตะล่อมกับครีมชีสแบทเทอร์ให้เข้ากัน ถ้าอยากให้มีสีม่วงเข้ามาก็แบ่งบลูเบอร์รี่ซอสมาตะล่อมให้เข้ากัน





โฮมเมดบลูเบอร์รี่ซอส & บลูเบอร์รี่เยลลี่


บลูเบอร์รี่แช่แข็ง 300 กรัม


น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ หรือตามชอบ


น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง


เกลือ นิดหน่อย


เจลาติน 1 แผ่น


ขั้นตอนการทำ


แช่เจลาตินในน้ำเย็น นำบลูเบอร์รี่แช่แข็งใส่หม้อ ใส่น้ำและน้ำตาล เกลือ ต้มด้วยไฟอ่อนจนบลูเบอร์รี่เริ่มนิ่ม แยกน้ำบลูเบอร์รี่ออกมาใส่อีกหม้อ นำไปตั้งไฟให้เดือด แล้วใส่เจลาตินลงไปคนให้ละลาย ก็จะได้บลูเบอร์รี่เยลลี่ค่ะ


ส่วนเนื้อบลูเบอร์รี่ก็จะเป็นบลูเบอร์รี่ซอสแบบไม่มีแป้ง ถ้าใครอยากได้แบบบลูเบอร์รี่ซอสกระป๋องก็ให้ต้มน้ำประมาณ 1/3 ถ้วยตวง ผสมกับแป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ ต้มจนเดือดด้วยไฟอ่อน ระหว่างต้มก็คนด้วยพายจากนั้นจึงใส่เนื้อบลูเบอร์รี่ ชิมรสตามชอบค่ะ ถ้าไม่หวานก็เติมน้ำตาลได้นะคะ เกดชอบให้เปรี้ยว ๆ ค่ะตัดกับครีมชีสดีค่ะ





การประกอบขนม


สำหรับการประกอบนะคะ ก็เริ่มจากนำคุกกี้มารองก้นแก้ว นำครีมชีสแบบที่ 1 แช่เย็นให้ครีมชีสเซตตัว จากนั้นจึงใส่ซอสบลูเบอร์รี่ วางคุกกี้ลงไปอีกชั้นเว้นขอบไว้ หรืออาจจะไม่เว้นขอบก็ได้ค่ะ แล้วแต่ว่าต้องการให้เห็นเนื้อคุกกี้หรือเปล่า เผอญแก้วที่เกดใช้ค่อนข้างเล็กก็เลยไม่ได้ให้เห็นคุกกี้ชั้นที่ 2 นะคะ จากนั้นก็เททับด้วยครีมชีสแบบที่ 2 นำไปแช่เย็นให้เซตตัว แล้วนำมาราดด้วยบลูเบอร์ซอสและเทปิดหน้าด้วยเยลลี่บลูเบอร์รี่ บีบวิปครีมตกแต่งตามชอบ





สำหรับอันนี้ก็อีกแบบค่ะ ใช้เยลลี่บลูเบอ์รี่เป็นตัวคั่น ส่วนบลูเบอร์รี่ซอสและคุกกี้เราก็ซ่อนไว้ในชั้นของครีมชีส คนทานจะได้แปลกใจค่ะ ส่วนวิปครีมอันนี้สำหรับคนรักวิปครีมโดยเฉพาะเลยค่ะ ทำเป็นเหมือนทานไอศครีมซอฟต์ครีม สำหรับการทำเป็นสองสีเราก็ผสมน้ำบลูเบอร์รี่ลงไปผสมกับวิปครีมแล้วตีให้ขึ้นฟู เวลาบีบก็ใส่ทั้งสองสีลงในถุงบีบค่ะ





ชั้นที่ 2 เกดก็ผสมบลูเบอร์รี่ซอสลงไปนิดหน่อยค่ะ ให้สีออกม่วงนิด ๆ ด้วยค่ะ สำหรับชอคโกแลตที่ตกแต่งก็ใช้ไวท์ชอคโกแลตผสมสีม่วง (สีสำหรับชอคโกแลต) ปาดบนแผ่นพลาสติก รอให้เซตตัวแล้วปาดทับด้วยไวท์ชอคโกแลตอีกครั้ง รอให้เซตตัวแล้วจึงตัดอย่างที่ต้องการค่ะ





สำหรับช่วงน้อาจจะหายหน้าหายตาไปบ้างนะคะ เพราะว่ายุ่งตั้งแต่ต้นปีตอนนี้ก็ยังยุ่งอยู่ค่ะ ขนาดเพื่อนสนิทเกดยังบอกว่าหายไปเลยค่ะ ยังไงก็ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมาคุยด้วยนะคะ





ไว้เจอกันอีกทีบลอกหน้าค่ะ ...... ขอบคุณมาก ๆ นะคะ





บลอกของเพื่อน ๆ ฟาร์มไก่ที่โพสต์ไปแล้วนะคะ

Chrysanthemum Cake .... เค้กรูปดอกเบญจมาศ สำหรับชาโจ้ค่ะ




สวัสดีค่ะ .... ในที่สุดก็ได้เขียนบลอกซะที หลังจากที่มีปัญหามาสักพัก วันนี้ยังไม่ได้เอาอะไรใหม่ ๆ มาฝากนะคะ เอารูปขนมเค้กที่ทำไปเมื่อวันเสาร์ที่แล้วค่ะ เป็นเค้กชิฟฟอนมะพร้าวอ่อน ไส้เป็นวิปครีมและคัสตาร์ดมะพร้าวอ่อนนะคะ นาน ๆ ทีจะได้ทำแต่งเค้กด้วยวิปครีมซะทีค่ะ เนื่องจากว่าทำแล้วต้องรีบทานค่ะ ถ้าไม่ได้อยู่ในตู้เย็นจะละลายง่ายกว่าครีมอิตาเลียนเมอร์แรงก์ที่ทำค่ะ





เค้กก้อนนี้เป็นเค้กขนาด 6 ปอนด์ค่ะ ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว สำหรับใครที่ทำเค้กขนาดใหญ่ควรจะมีฐานรองที่แข็งแรงนะคะ อาจจะใช้โฟมหนาสักหนึ่งนิ้วตัดเป็นขนาดที่ต้องการ ให้ใหญ่กว่าตัวเค้กนะคะ แล้วก็ใช้ฟอยด์หุ้มหรือว่าอาจจะใช้กระดาษที่ชอบก็ได้ค่ะ แล้วห่อซ้ำด้วยพลาสติกใส เท่านี้เราก็ได้ที่รองเค้กที่เหมาะสำหรับเค้กขนาดใหญ่แล้วค่ะ





เค้กมะพร้าวอ่อนก้อนนี้เป็นออเดอร์สั่งพิเศษจากพี่หนุ่มค่ะ นำไปให้ President ของบริษัทค่ะ เป็นวันเกิดของชาโจ้ค่ะ (ชาโจ้ หมายถึง ประธานบริษัท) อาทิตย์นี้มีประชุมใหญ่ของบริษัทพี่หนุ่มค่ะ ทุกสาขาทั่วโลกมาประชุมประจำปีกันที่เชียงใหม่ค่ะ แล้ววันอาทิตย์ก่อนวันประชุมหนึ่งวันเป็นวันเกิดของชาโจ้ค่ะ งานนี้คุณสามีก็เลยบอกว่าอยากได้เค้กสำหรับชาโจ้ พี่หนุ่มบอกว่าเอาเค้กคล้ายๆ กับที่เคยทำให้ลูกชายชาโจ้ค่ะ คราวนั้นเกดทำเป็น สตอเบอรี่ชอตเค้กค่ะ ครีมเป็นวิปครีม สูตรอยู่ " ที่นี่ " ค่ะ


คราวนี้เกดก็เลยคิดว่าอยากทำเค้กมะพร้าว เพราะว่าเห็นว่าคนญี่ปุ่นเวลามาไทยชอบทานมะพร้าวค่ะ พี่หนุ่มก็โอเคค่ะ สำหรับสูตรเกดได้ปรับจากสูตรของ คุณตุ๊ก ณชนกม์ ปัญญาหิตานนท์ นะคะ จากหนังสือ Bakery in my heart ค่ะ ใครสนใจสูตรก็สามารถไปหาซื้อมาอ่านได้นะคะ วันนี้ขออนุญาติไม่ลงสูตรนะคะ เอาไว้เดี๋ยวคราวหน้าเอามาฝากทั้งสูตรและวิธีทำค่ะ





มาดูว่าหัวบีบที่เกดใช้ในครั้งนี้มีเบอร์อะไรกันนะคะ


ขอบบน - หัวบีบเบอร์ 14 บีบเป็นไม้หันอากาศค่ะ


ขอบล่าง - หัวบีบเบอร์ 14 บีบเป็นซิกแซกค่ะ


ดอกเบญจมาศ - หัวบีบเบอร์ 81 ค่ะ เป็นหัวบีบโค้งนะคะ (Half moon/mum) สำหรับหัวบีบรูปนี้นะคะก็จะมีเบอร์ 79, 80, 81 ค่ะ ขนาดก็แตกต่างกันไปว่าเล็กหรือใหญ่ค่ะ แล้วแต่ความต้องการ


ใบไม้ - หัวบีบเบอร์ 352 หรือว่าจะใช้กรวยตัดปลายแหลมเป็นใบไม้ก๊ได้ค่ะ


ตัวหนังสือ - หัวบีบเบอร์ 2 หรือว่ากรวยตัดปลายก็ได้ค่ะ





สีก็แล้วแต่ชอบค่ะ เกดเห็นว่าเป็นเค้กผู้ใหญ่ก็เลยพยายามไม่ใช้สีฉูดฉาดมากเท่าไหร่ค่ะ เน้นที่สีเหลืองเป็นหลัก แล้วก็ไล่โทนสีเอาค่ะ สำหรับวิธีการบีบขอติดไว้อีกแล้วนะคะ เพราะว่าวันนั้นกว่าจะได้ถ่ายรูปก็เป็นตอนเย็นค่ะ แล้วก็รีบเอาเค้กไปส่งที่โรงแรมด้วยค่ะ กลับมาก็หมดแรงเลยค่ะ





ขนาดของดอกก็ไล่ขนาดดูนะคะ ใหญ่บ้างเล็กบ้าง การจัดวางเกดยังวางได้ไม่ค่อยดีค่ะ สำหรับเค้กก้อนนี้เพราะว่าไม่ได้วาดแปลนไว้ล่วงหน้า ตอนแรกกะจะทำเป็นดอกกุหลาบค่ะ แต่คิดไปคิดมาเปลี่ยนแบบบ้างดีกว่า จะได้เอาการแต่งหน้าเค้กแบบอื่น ๆ มาให้เพื่อน ๆ ได้ดูบ้างค่ะ





สำหรับครีมอาจจะฝ่อไปบ้างนะคะ เพราะว่าวันนั้นอากาศร้อนได้ใจเลยค่ะ ก็เลยต้องรีบทำรีบบีบค่ะ ไม่งั้นอาจจะละลายได้ ปกติเกดจะใช้เป็นแบบ Dairy นะคะ แต่วันนี้เห็นว่ากว่าจะได้ทานก็ต้องอยู่ข้างนอกเกือบสามชั่วโมงก็เลยผสมวิปครีมแบบ Non Dairy ลงไปนิดหน่อยค่ะ ประมาณ 30% ก็ช่วยให้อยู่ในอุณหภูมิห้องได้นานขึ้นค่ะ





Special Thanks To ...


ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมกันนะคะ


แล้วก็ขอบคุณสูตรดี ๆ จากหนังสือ Bakery in my heart ด้วยค่ะ ทั้งเล่ม 1 และเล่ม 2 เลยค่ะ เอาไว้บลอกหน้าจะเป็นอะไรนั้นคงต้องติดตามดูกันนะคะ





ปล. เอารูปไทเกอร์มาฝากให้ดูด้วยค่ะ ... นาน ๆ จะถ่ายได้สักทีปกติเค้าไม่ค่อยอยู่นิ่งเลยค่ะ *_*'' วิ่งไปวิ่งมาได้ทั้งวัน



Lemon Poppy Seed Cupcakes For Veteran Day.... คัพเค้กเลม่อนป๊อปปี้ซีด



สวัสดีค่ะ .... ขนมที่เกดเอามาให้ทดลองทำกันดูวันนี้เป็นคัพเค้กที่ทำง่าย ๆ ค่ะกับ " Lemon Poppy Seed Cupcakes " เป็นคัพเค้กที่เกดดัดแปลงสูตรมาจาก " หนังสือ Cupcakes from the Primrose Bakery ของ Mawtha Swift & Lisa Thomas " ค่ะ เป็นหนังสือคัพเค้กน่ารัก ๆ จากอังกฤษค่ะ





สำหรับสูตรที่เกดเลือกมาทดลองทำในวันนี้นะคะ เกดเลือกจากสูตร Basic Cupcakes ค่ะ โดยเลือกเอาสูตร Lemon Cupcakes ซึ่งเป็นสูตรขายดีของทางร้านค่ะ เกดปรับสูตรนะคะ โดยลดส่วนของน้ำตาลและส่วนอื่นนิดหน่อยค่ะ ลองให้พี่หนุ่มทานแล้ว ได้รับคำตอบว่าอร่อยค่ะ นาน ๆ จะได้รับคำชมซะที ขานี้ปากหนักค่ะ อิอิอิ


เค้กเป็นเค้กบัตเตอร์ หอมกลิ่นเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ จากผิวเลมอน แถมยังเพิ่มป็อปปี้ซีดเข้าไปอีกค่ะ ส่วนการแต่งหน้าก็อยากแต่งให้เข้ากับวันพรุ่งนี้ค่ะ ที่เป็นวันทหารผ่านศึกค่ะ ก็เลยตกแต่งด้วยดอกป๊อปปี้ค่ะ





" วันทหารผ่านศึก " ตรงกับ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี โดยเป็นวันที่ระลึกถึงการกลับมาของทหารไทยที่ได้ไปร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยวันนี้ได้ใช้ " ดอกป๊อปปี้สีแดง " เป็นสัญลักษณ์


" ดอกป๊อปปี้ " ในทางสากลแล้วถือเป็นดอกไม้ที่สื่อความหมายถึง ทหารผู้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดิน สำหรับประเทศไทยนั้นการจัดทำดอกป๊อปปี้เพื่อจำหน่ายในวันทหารผ่านศึกนั้น เกิดจากดำริของท่านผู้หญิง จงกล กิตติขจร ประธานสโมสรสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก หรือมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกในปัจจุบัน


สำหรับรายได้จากการที่ขายดอกป๊อปปี้นั้นได้มีการนำมาสงเคราะห์ทหารผ่านศึก อาสาสมัคร ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งรายได้จากการขายดอกป๊อปปี้นั้นก็มีเพียงปีละครั้งเท่านั้นเอง ซึ่งใครที่ยังไม่ซื้อก็ช่วยกันซื้อคนละดอกสองดอกนะคะ เพื่อเป็นช่องทางนึงในการขอบคุณเหล่าบุคคลที่ได้เสียสละในการป้องกันรักษาประเทศชาติค่ะ





" Lemon Poppy Seed Cupcakes " เป็นเค้กเนื้อบัตเตอร์ที่มีกลิ่นหอม ๆ ของเลมอน รสชาติหวานไม่มากเปรี้ยวนิด ๆ ให้ความสดชื่นดีค่ะ แล้วก็ยังใส่ ป๊อปปี้ซีด เพิ่มเข้าไปอีกค่ะ เวลาทานให้ความรู้สึกมัน ๆ ดีค่ะ สำหรับครีมที่เกดเลือกใช้ก็เป็น " Lemon Cream Cheese Icing " นะคะ ครีมหอม ๆ เปรี้ยวนิด ๆ เพื่อไม่ให้เลี่ยนนะคะ ซึ่งเวลาทานก็เข้ากับเนื้อเค้กอย่างดีค่ะ อีกทั้งวิธีการทำก็แสนจะง่ายด้วยค่ะ มาดูสูตรและขั้นตอนการทำเลยนะคะ





Lemon Poppy Seed Cupcakes


ปรับสูตรจาก : Cupcakes from the Primrose Bakery by Martha Swift & Lisa Thomas


แป้งเค้ก 270 กรัม


เนยจืด 110 กรัม


น้ำตาลทราย 200 กรัม


ไข่ไก่ เบอร์ 1 2 ฟอง


นมจืด 90 มล.


น้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ


Sour Cream (ครีมเปรี้ยว) 2 ช้อนโต๊ะ


เกลือ 1/4 ช้อนชา


ผงฟู 2 ช้อนชา


ป๊อปปี้ซีด 2 ช้อนโต๊ะ


ขั้นตอนการทำ


เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นำถ้วยกระดาษใส่พิมพ์มัฟฟิน 12 ถ้วย


ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เกลือ เข้าด้วยกันจากนั้นนำ ป๊อปปี้ซีด มาผสมเข้าด้วยกันกับแป้ง


ผสมนมจืด น้ำเลมอน และครีมเปรี้ยวเข้าด้วยกัน พักไว้





ตีเนยด้วยหัวตีใบไม้ ตีด้วยความเร็วปานกลางพอให้เนยอ่อนตัว จากนั้นจึงใส่น้ำตาลทราย ตีต่อด้วยความเร็วกลาง ตีให้เนยขึ้นฟู ปาดอ่างเป็นระยะ (ใช้เวลาตีประมาณ 4-6 นาที)


พอเนยขึ้นฟูแล้วให้ใส่ไข่ทีละฟอง ตีด้วยความเร็วต่ำ จากนั้นใส่แป้งสลับกับนม โดยแบ่งแป้งเป็น 3 ส่วน นม 2 ส่วน เริ่มจากแป้ง นม แป้ง นม และสุดท้ายด้วยแป้ง ตีพอเข้ากัน ตักใส่พมพ์ที่เตรียมไว้





นำเข้าอบเป็นเวลา 20-25 นาที หรือจนกระทั่งสุก เชคสุกโดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มเค้ก ถ้าปลายไม้ไม่มีเศษเค้กก็ถือว่าสุกค่ะ จากนั้นนำเค้กออกจากเตาอบ ทิ้งไว้ในพิมพ์ประมาณ 5 นาทีนะคะ เนื้อเค้กจะได้ไม่ร่อนออกจากพิมพ์กระดาษ





Lemon Cream Cheese Icing


ครีมชีส 120 กรัม


น้ำตาลไอซิ่ง 170 กรัม


เนยจืด 70 กรัม


ผิวเลมอน 2 ช้อนชา (หรือตามชอบ)


น้ำเลมอน 3 ช้อนชา (หรือตามชอบ)


ขั้นตอนการทำ


นำส่วนผสมทั้งหมดยกเว้นน้ำเลมอนใส่อ่างตี ตีด้วยหัวตีใบไม้ ตีด้วยความเร็วปานกลาง ตีจนส่วนผสมฟูเนียน จึงค่อย ๆ ใส่น้ำเลมอนทีละช้อนชา ตรงนี้ชิมรสชาติความเปรี้ยวตามชอบ จากนั้นจึงนำมาตกแต่งคัพเค้กตามชอบ





วันนี้เกดพยายามปาดครีมให้ได้อย่างในหนังสือค่ะ แต่ว่าทำไม่ค่อยได้ ... แหะ ๆ สเปตตูล่าอันเล็กไม่มี มีแต่แบบปลายแหลม ๆ ก็เลยใช้ช้อนเอาค่ะ สำหรับตอกป๊อปปี้เกดใช้ฟองดองต์ปั้นเอาค่ะ แล้วตกแต่งเกสรด้วยครีมชีสที่ตีไว้ค่ะ แต่ถ้าจะทำล่วงหน้าควรใช้รอยัลไอซิ่งดีกว่าค่ะ





สีของ Lemon Cream Cheese Icing อาจจะหยดสีเหลืองลงไปสักนิดก็ได้นะคะ แล้วแต่งด้วยเลมอนหั่นเสี้ยวก็สวยน่ารักไปอีกแบบค่ะ


Special Thanks To ....


Lemon Cupcakes from Cupcakes from the Primrose Bakery By Martha Swift & Lisa Thomas


ต้องขอขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมาเยี่ยมเยียนกันนะคะ ถ้าเกดมีเวลาก็จะแวะไปขอบคุณนะคะ ช่วงนี้พอรับทำขนมก็ไม่ค่อยว่างค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่ากว่าจะทำได้สักชิ้นมัวแต่นั่งประดิดประดอยค่ะ เดี๋ยวมีเค้กไอเดียน่ารัก ๆ มาให้ได้ดูนะคะ เพื่อต้อนรับเทศกาลตรุษจีนและวาเลนไทน์ที่จะมาถึงค่ะ


อย่าลืมกันช่วยซื้อดอกป๊อปปี้นะคะ สละเงินกันคนละนิดเพื่อทหารและครอบครัวที่เสียสละเพื่อชาตินะคะ... ขอบคุณค่ะ



Chicken Farm Bakers' Project # 18 : Opera with a twist! Cha Thai Opera



สวัสดีค่ะ มาส่งการบ้านแบบช้ามาก ๆ กับการบ้านฟาร์มไก่ เขียนเสร็จแล้วก็ดันลืมเซฟไปซะได้ กลายเป็นว่าที่เขียนไว้หายหมดเลยค่ะ เศร้าใจจริง ๆ ต้องขอโทษโฮสต์ " ปุ๊ก Dailydelicious และเพื่อน ๆ ฟาร์มไก่ " ด้วยนะคะ ที่ส่งการบ้านช้ามาก ๆ ช่วงนี้ยังไม่หายวุ่นเลยค่ะ


เมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็ไม่สบายค่ะเป็นไซนัสอักเสบแล้วก็ติดเชื้อ ต้องทานยาแก้อักเสบเกือบสองอาทิตย์ ต้องระวังกันนะคะอย่าปล่อยให้เป็นหวัดเรื้อรังนานๆ นะคะ


สำหรับเค้กโอเปร่าที่โฮสจอมโหดในครั้งนี้ให้ทำเกดทำเป็นเค้กโอเปร่าสัญชาติไทยนะคะกับ " โอเปร่าชาไทย " โดยปกติเวลาที่เราทานเค้กโอเปร่าจะเป็นรสกาแฟ คราวนี้ลองเปลี่ยนมาเป็ชาไทยกันบ้างนะคะ





สำหรับ " เค้กโอเปร่าชาไทย " ก็จะประกอบไปด้วย Jaconde Biscuit (จาก็องด์ บิสกิต ซึ่งเป็นอัลมอนด์บิสกิตค่ะ) , Cha Thai Buttercream (บัตเตอร์ครีมชาไทย), White Chocolate Cha Thai Filling Ganache (ไวท์ชอคโกแลตชาไทยฟิลลิ่งกานาช), White Chocolate Base (ไวท์ชอคโกแลตเบส),Cha Thai Syrup (น้ำเชื่อมรสชาไทย), White Chocolate Glazing Ganacheไวท์ชอคโกแลตเกลซซิ่งกานาช





ส่วนประกอบค่อนข้างเยอะจริง ๆ เลยค่ะ ตอนแรกที่ได้โจทย์เกดก็นั่งคิดว่าจะทำเป็นรสชาติไหนดี คิดไปคิดมาก็เลยไปซื้อ เค้กโอเปร่าจากโอเรียลเต็ลชอปมานั่งทานแล้วก็แยกเป็นชั้น ๆ ดูว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง ทานไปก็นั่งวาดไปว่าจะทำเป็นโอเปร่าแบบไหน ซึ่งสูตรหลัก ๆ เกดก็ใช้ของ ปุ๊ก Dailydelicious ค่ะ แล้วก็มีบางส่วนที่ดัดแปลงเพิ่มเติมขึ้นมาจาก เค้กโอเปร่าของคุณพล ตัณฑเสถียรค่ะ ซึ่งมีไว้ในรายการ 9 Society ค่ะ สำหรับลิงก์ก็ตามนี้นะคะ


โอเปร่าเค้ก จากรายการ 9 Society





OPERA CHA THAI


Jaconde Buiscuit


อัลมอนด์ 85 กรัม


น้ำตาลไอซิ่ง 55 กรัม


ไข่ไก่ 80 กรัม


แป้งเค้ก 16 กรัม


ไข่ขาว 75 กรัม


น้ำตาลทราย 15 กรัม


เนย 15 กรัม


น้ำชาเข้มข้น


น้ำ 1/2 ถต.


ชาไทย 4 ช้อนโต๊ะ


Cha Thai Buttercream


ไข่แดง 100 กรัม


น้ำตาลทราย 100 กรัม


น้ำเปล่า 40 มล.


เนย 180 กรัม


เกลือ 1/8 ช้อนชา


น้ำชาเข้มข้น 50 มล.


White Chocolate Cha Thai Filling Ganache


ไวท์ชอคโกแลต 100 กรัม


วิปครีม 150 มล.


ชาไทย 2 ช้อนโต๊ะ


White Chocolate Base


ไวท์ชอคโกแลต 60 กรัม


น้ำมันพืช 3 หยด


Cha Thai Syrup


น้ำเปล่า 150 มล.


น้ำตาลทราย 120 มล.


น้ำชาเข้มข้น 50 มล.


White Chocolate Glazing Ganache


ไวท์ชอคโกแลต 100 กรัม


วิปครีม 120 กรัม


ขั้นตอนการทำ


การทำน้ำชาเข้มข้น


เกดใช้ชาแบบชาผงปรุงสำเร็จตรามือ ชนิดแบบไม่ต้องต้มนะคะ ต้มน้ำร้อนให้เดือด เกดใช้ประมาณ 1/2 ถต. นำชาผงแช่ไว้ประมาณ 5-10 นาทีแล้วกรองกากชาออก ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วจึงนำไปใช้





การทำ Jaconde Biscuit


เตรียมพิมพ์ขนาด 24X34 ซม. โดยปูกระดาษไขไม่ต้องทาไขมัน เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นำอัลมอนด์ไปป่นกับน้ำตาลไอซิ่งให้ละเอียด นำใส่อ่างตี ใส่ไข่ไก่ ตีให้ขึ้นฟู ใส่แป้งเค้กตะล่อมให้เข้ากันแล้วพักไว้





นำเนยไปละลาย แบ่งส่วนของอัลมอนด์แบทเทอร์มาใส่นิดหน่อยคนให้เข้ากัน ส่วนนี้จะทำให้เวลาตะล่อมเนยจะทำได้ง่ายขึ้น อุณหภูมิของเนยควรอุ่น ๆ ไม่ร้อนและเย็นเกินไป





ทำเมอแรงก์โดยการตีไข่ขาวกับน้ำตาลทรายจนตั้งยอด





นำเมอแรงก์มาตะล่อมกับอัลมอนด์แบทเทอร์ โดยแบ่งเมอแรงก์เป็นสามส่วนตะล่อมให้เข้ากัน จากนั้นจึงใส่เนยที่เตรียมไว้ตะล่อมให้เข้ากันจากนั้นจึงเทใส่ถาดแล้วเกลี่ยให้มีความหนาเท่า ๆ กันทั่วทั้งถาด นำเข้าอบเป็นเวลาประมาณ 10 นาที เชคสุกโดยการกดเนื้อเค้กเบาแล้วมีการสปริงตัวขึ้นมา นำออกจากเตาอบแล้วคว่ำเค้กลงบนกระดาษไขอีกแผ่นโดยยังไม่ต้องลอกกระดาษไขออก เพื่อให้เนื้อเค้กยังมีความชื้นทิ้งไว้ให้เย็นแล้วจึงนำมาใช้





การทำ White Chocolate Base


ละลายชอคโกแลตโดยละลายในไมโครเวฟประมาณ 40 วินาที คนดูว่าชอคโกแลตละลายหมดหรือเปล่าหากยังไม่หมดก็เพิ่มเวลาอีกครั้งละ 10 วินาที นำน้ำมันพืชหยดลงไปสัก 2-3 หยดคนให้เข้ากัน





การทำ Cha Thai Buttercream


ต้มน้ำตาลและน้ำด้วยไฟกลาง วัดอุณหภูมิด้วยเทอร์โมมิเตอร์จนกระทั่งอุณหภูมิประมาณ 100 องศาเซลเซียส จึงเริ่มตีไข่แดงด้วยความเร็วสูงจนฟูข้นขาว พอน้ำตาลอุณหภูมิประมาณ 118 องาเซลเซียส จึงค่อย ๆ เทลงในอ่างไข่แดง ขณะเดียวกันก็ตีด้วยความเร็วสูง ตีจนกระทั่งเทน้ำตาลหมด ตีต่อจนกระทั่งอ่างตีเย็น จากนั้นจึงใส่เนยนิ่ม ใส่ทีละน้อย ๆ จนหมด ใส่เกลือ





จากนั้นจึงใส่น้ำชาเข้มข้น คนให้เข้ากัน





การทำ White Chocolate Cha Thai Filling Ganache


อุ่นวิปครีมพอร้อนนำชาลงไปแช่ประมาณ 5-10 นาที จากนั้นกรองกากชาออก นำวิปครีมเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟให้ร้อน จากนั้นนำวิปครีมประมาณ 100 มล.ใส่ในอ่างไวท์ชอคโกแลต ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาทีแล้วจึงคนให้เข้ากันพักไว้ให้เย็น


การทำ Cha Thai Syrup


นำน้ำเปล่าและน้ำตาลทราย ต้มด้วยไฟกลาง ต้มพอน้ำตาลละลายและส่วนผสมเดือด จากนั้นจึงใส่น้ำชาเข้มข้ม ชิมให้มีรสหวานนิดหน่อย


การทำ White Chocolate Glazing Ganache


ควรทำเป็นขั้นตอนสุดท้านหลังจากปาดบัตเตอร์ครีมชั้นสุดท้าย อุ่นวิปครีมพอให้ร้อนแล้วเทลงในอ่างชอคโกแลตทิ้งไว้ประมาณ 1 นาทีแล้วคนให้เข้ากัน


การประกอบเค้กโอเปร่าชาไทย


แบ่งเค้กเป็นสามส่วน นำแผ่นที่ 1 มาทาไวท์ชอคโกแลตเบสให้ทั่ว ๆ นำเข้าแช่เย็นให้ชอคโกแลตแข็งตัว





เมื่อชอคโกแลตแข็งตัวแล้วจึงนำออกมา คว่ำด้านที่เป็นชอคโกแลตลงด้านล่าง ทาด้วยน้ำเชิ่อมชาไทยแล้วจึงปาดด้วยบัตเตอร์ครีมชาไทย





วางเค้กชิ้นที่ 2 ทับแล้วพรมด้วยน้ำเชื่อมชาไทย นำเข้าแช่เย็นพอให้บัตเตอร์ครีมแข็งตัว จากนั้นจึงนำออกมาปาดด้วยกานาชไวท์ชอคโกแลตชาไทย จากนั้นจึงวางเค้กชิ้นที่ 3 แล้วพรมด้วยน้ำเชื่อมชาไทยให้ทั่วปาดด้วยบัตเตอร์ครีมชาไทย แล้วนำไปแช่เย็นพอให้เซตตัว ระหว่างนี้จึงค่อยเตรียมไวท์ชอคโกแลตเกลซซิ่ง พอบัตเตอร์ครีมแข็งตัวดีแล้วจึงนำ ไวท์ชอคโกแลตเกลซซิ่งราดให้ทั่วหน้าเค้ก เอียงเค้กไปมาให้เกลซซิ่งหนาเท่าๆ กัน นำแช่เย็นให้เกลซซิ่งเซตตัว จากนั้นจึงนำมาตัดเป็นชิ้น ขนาดที่ต้องการแล้วเขียนตัวหนังสือด้วยไวท์ชอคโกแลตละลายผสมสีส้ม





จะเขียนเป็นรูปตัวโน๊ตก็ดูน่ารักดีค่ะ





เวลาทานจะรู้สึกเหมือนทานชานมเย็นนะคะ ทานกับชาร้อน ๆ ก็เข้ากันดีค่ะ





Special Thanks To ...


โฮสต์ปุ๊ก ที่ได้ให้ทำอะไรยาก ๆ แบบนี้ แล้วก็เพื่อน ๆ ฟาร์มไก่ทุกคน แล้วก็ต้องขอโทษที่ไม่ได้ไปเยี่ยมของใครเลย มีทั้งงานราษฎร์งานหลวง ขอบคุณสูตรของปุ๊กด้วยนะคะ แล้วก็สูตรจากรายการ 9 Society ด้วยค่ะ


สำหรับลิงก์ของเพื่อน ๆ ฟาร์มไก่ที่ได้ส่งการบ้านไปแล้วนะคะ