16/11/53

+++ We are Donuts +++

 



 


สืบเนื่องจากกระทู้นี้ " http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D9891824/D9891824.html  :  Homemade Krispy Kreme ลองกันหรือยังคะ "   ทำให้คุณนายนิดาเพื่อนเลิฟส่งเมสเสจมาหาว่าอยากกิน KK บ้าง


เกดก็งง ...  ว่าคุณนายก็บินไปแอ่วเมืองนอกบ่อย ๆ ยังบ่อได้กินเตื้อก๋า คุณนาย ขนาดอิชั้นไปนาน ๆ  ทีก็ยังได้กินมาแล้ว 2 ครั้ง แอบเกทับซะหน่อย  คุณนายนิดาก็ได้เหตุผลมาก็บอกว่าบ่อได้ไปซื้อ ขี้คร้านต่อแถว  โอเค ...  จัดให้เลยเจ้า เพราะว่าไหน ๆ ก็ว่างแล้ว เพราะว่าอาทิตย์ที่แล้วทำเค้กแต่งงานไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา  วันอาทิตย์ก็เปื่อยนอนทั้งวัน แถมวันจันทร์ก็เปื่อยต่อเนื่องอีก  ....  มาวันนี้ก็จัดให้คุณนายโลด


 



 


สำหรับสูตรเกดใช้ตามสูตรของ  คุณ ฑีรฒ  เลยนะคะไม่ได้ปรับสูตรแต่อย่างใดค่ะ เอาส่วนผสมมาลงให้อีกรอบนะคะ


Homemade Krispy Kreme


แป้งสาลี (แป้งอเนกประสงค์)  2.5  ถ้วยตวง  :  315  กรัม


นม  210  มล.


ยีสต์  1  ช้อนโต๊ะ


น้ำตาลทราย  2  ช้อนโต๊ะ


ไข่แดง  1  ฟอง


เนย  3  ช้อนโต๊ะ  :  45  กรัม


(สำหรับการแปลงจากหน่วยถ้วยตวงเป็นกรัม  เกดใช้ของ www.allrecipes.com นะคะ)


ขั้นตอนการทำ


อุ่นนมให้มีอุณหภูมิประมาณ 37-40 องศาเซลเซียส ใส่น้ำตาลทราย ใส่ยีสต์ลงไปคนให้เข้ากันพักไว้ประมาณ 5 นาที ตรงนี้จะเห็นว่าเกิดเป็นฟองนะคะ


 



 


นำแป้งใส่อ่างตี ใส่ไข่แดง เนย ส่วนผสมของนมและยีสต์ที่เตรียมไว้ ผสมให้เข้ากันแล้วทำการนวดให้เนียน ส่วนปสมจากสูตรต้นตำรับจะค่อนข้างเหลวค่ะ ถ้าหากนวดด้วยมืออาจจะต้องเพิ่มแป้งเข้าไปนะคะ เกดนวดด้วยคิดเช่นเอดก็ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีค่ะ แต่ส่วนผสมค่อนข้างนิ่ม แต่ก็ยังจับตัวเป็นก้อน  เมื่อเนียนแล้วก็นำใส่อ่างพักไว้ให้ขึ้นเป็น 2 เท่าประมาณ 1 ชั่วโมง


ครบเวลาก็นำมาออกคลึงเป็นแผ่นให้หนาประมาณ 1 เซนติเมตร จากนั้นตัดเป็นโดนัทด้วยพิมพ์ตัดโดนัท ถ้าไม่มีก็ใช้พิมพ์วงกลมวงเล็กกับวงใหญ่ตัด พักไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อน 180 องศาจนเหลืองสวย


Remark จากที่เกดทำนะคะตรงนี้เป็นความคิดเห็นของเกดนะคะ แป้งค่อนข้างนิ่ม เวลาตัดด้วยโดนัทคัตเตอร์จะพบว่าตัดออกมาไม่สวยอาจจะมีการเบี้ยวเพราะว่าเนื้อโดนิ่มมาก เกดก็เลยเลือกทำเพิ่มอีก 1 วิธีที่เป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้โดนัทคัตเตอร์ โดยชั่งแป้งประมาณ 40 กรัม คลึงแป้งในกลมเนียน พักแป้งไว้ประมาณ 5 นาทีจากนั้นจึงใช้นิ้วชี้จิ้มลงไปให้พอเป็นรู  จากนั้นใช้นิ้วชี้อีกมือมาเสียบในรูโดนัทจากนั้นจึงหมุนนิ้วให้เกิดเป็นรูกว้างขึ้น  จากนั้นพักแป้งไว้ประมาณ 20 นาทีเช่นเดียวกัน จากวิธีนี้ผิวแป้งของโดนัทเวลาทอดจะดูสวยกว่าแบบตัดด้วยโดนัทคัตเตอร์ เฉพาะโดนัทสูตรนี้นะคะ สำหรับสูตรอื่นอาจจะต้องทดลองดูค่ะ


ข้อแนะนำ : สำหรับคนที่นวดด้วยมืออาจจะต้องเพิ่มแป้งเข้าไปสัก 1-2 ช้อนโต๊ะดูค่ะ จะช่วยได้เยอะ หรืออาจจะลดส่วนผสมของนมลงนะคะ เช่นในสูตรให้ใช้ 210 มล. อาจจะแบ่งนมไว้ประมาณ 50 มล. ไม่ต้องนำไปผสมรวมกับยีสต์ในตอนแรก จากนั้นตอนที่นวดแป้งก็ค่อย ๆ  เติมนมลงไปดู เติมแค่ดูว่าส่วนผสมดูไม่เหลวหรือว่าแฉะเกินไปนะคะ


ปัจจัยอีกอย่างที่สำคัญก็คงเป็นที่แป้งที่ใช้กันนะคะ แป้งของต่างประเทศส่วนใหญ่มักจะมีปริมาณของกลูเต็นมากกว่าของไทย รวมทั้งเรื่องของความชื้น ทำให้แป้งพวกนี้สามารถดูดซับส่วนของเหลวได้ดีกว่า จึงทำให้เวลานวดออกมาแล้วอาจจะไม่เหลวเท่ากับที่เราทำนะคะ จากตรงนี้เองก็อาจจะเห็นว่าทำไมบางทีทำขนมสูตรฝรั่งแล้วทำออกมาไม่ได้เหมือนต้นตำรับกัน ตรงนี้ก็เป็นอย่างนึงที่ต้องคำนึงด้วยนะคะ


 


ตัดแป้งเป็นก้อน ๆ ละประมาณ 40  กรัม คลึงกลมแล้วพักไว้



 


ใช้นิ้วจิ้มเป็นรูตรงกลางจากนั้นค่อยคลึงออกให้รูกว้างขึ้น พยายามทำให้ขนาดโดนัทเท่า ๆ กันทั้งวง


 



 


หลังจากพักโดนัทไว้ประมาณ 20 นาที ...  เตรียมพร้อมที่จะทอด


 



 


โดนัทที่ทอดเสร็จแล้ว ....  ข้อแนะนำว่าไม่ควรทอดโดนัทใต้ไฟสีเหลืองนะคะ เพราะว่าจะทำให้ดูสีโดนัทค่อนข้างลำบาก ของเกดทอดในเตาซึ่งปกตไฟตรงฮู๊ดก็จะเป็นสีเหลืองค่ะ  ทอดไปทอดมา เอามาดูที่ห้องอื่นี่เป้นแสงสีขาว หรือว่าแสงแดดปกติ สีโดนัทออกมาเข้มเกินไปค่ะ


 



 


จากนั้นก็ทำเกลซค่ะ เกดใช้ของ Foodnetwork แทนนะคะ


Donut Glaze from Foodnetwork.com


นมจืด  1/4  ถ้วยตวง


วานิลลา  1  ช้อนชา


น้ำตาลไอซิ่ง  2  ถ้วยตวง


นำนมไปอุ่นพอให้อุ่น ๆ จากนั้นจึงใส่น้ำตาลไอซิ่งและวานิลลา คนห้เข้ากันจากนั้นจึงนำโดนัทไปจุ่มทีละชิ้น พักไว้ให้แห้งสนิท


 



 


จากนั้นก็นำใส่กล่องไปให้เพื่อนเลิฟอย่างคุณนายนิดานะคะ .....  สำหรับเรื่องรสชาติว่าเหมือนหรือเปล่า ...  อันนี้ต้องลองทำแล้วซื้อ Krispy Kreme มาลองเทียบดูเอานะคะ


 


5/11/53

+++ Artisan Sweets by Kate. : Tin Tin cake +++

 



 


สวัสดีค่ะ ....  วันนี้ก็เอาเค้กการ์ตูนมาให้ดูอีกแล้วนะคะ  วันนี้เป็นเค้กของน้องตินตินค่ะ ลูกชายของน้องเปิ้ลค่ะ เป็นเค้กวันเกิดครบรอบ 1 ของตินตินค่ะ   .... รู้จักเจ้าหนูคนนี้มาตั้งแต่อยู่ในท้อง  ผ่านไปหนึ่งปีก็เลยได้ทำเค้กวันเกิดให้ค่ะ


* สำหรับ ตินติน (ฝรั่งเศส: Les Aventures de Tintin et Milou; อังกฤษ: The Adventures of Tintin) อ่านว่า แตงแตง ในภาษาฝรั่งเศส ภาษาดัตช์อ่านออกเสียงว่า "ตินติน" ภาคภาษาไทยอ่านว่า ตินติน เป็นการ์ตูนที่มีชื่อเสียงมากเรื่องหนึ่งในโลก กำเนิดเมื่อปี ค.ศ. 1929 จากปลายปากกาของ จอร์จ เรมี (Georges Remi) ชาวเบลเยื่ยม โดยใช้นามปากกาว่าแอร์เช่ (R.G.) ซึ่งนำเอาตัวอักษรแรกของชื่อและนามสกุลมาสลับ ตำแหน่งกันและออกเสียงแบบภาษาฝรั่งเศส (HERGÉ)
เรื่องราวของ ตินติน ได้รับการถ่ายทอดไว้ในหนังสือจำนวน 24 เล่ม มีการแปลเป็นภาษาต่างๆ กว่า 50 ภาษา (รวมทั้งภาษาไทยด้วย) และมียอดจำหน่ายกว่า 200 ล้านเล่มทั่วโลก และกำลังจะนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แอนิเมชัน จำนวน 3 ภาค โดย สตีเฟน สปีลเบิร์ก และปีเตอร์ แจ็กสัน


 



 


* เรื่องย่อ : ตินตินเป็นนักข่าวหนุ่มมีนิสัยรักการผจญภัย กล้าหาญ อดทน กระตือรือร้นและต่อสู้เพื่อความถูกต้องในสังคม เขามีสุนัขคู่ใจตัวหนึ่งว่า สโนวี่ (บางสำนักพิมพ์เรียก เมโล หรือ มีลู (Milou)
การผจญภัยของตินตินและเจ้าสโนวี่เกิดขึ้นทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ บุกไปในทะเลทรายรวมไปถึงในประเทศต่างๆ เช่น จีน รัสเซีย อียิปต์ คองโก สหรัฐอเมริกา และยังไปไกลถึงดวงจันทร์


* : ที่มาจาก wikipedia http://th.wikipedia.org/wiki/ตินติน


 



 


เค้กตินติน ก็จะมีการทำเหมือนเค้การ์ตูนทั่วไปนะคะ คือวาดแบบเค้กลงบนหน้าเค้กก่อนแล้วจึงค่อยใช้บัตเตอร์ครีมสีดำลากเส้น สำหรับหัวบีบที่ใช้บีบก็เป็นเบอร์ 2 ก็ได้ค่ะ หากอยากได้ใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็เป็นเบอร์ 3 หรือว่าเบอร์ 4 จากนั้นจึงผสมสีที่ต้องการ ใช้หัวบีบเบอร์ 14 จุดลงไปในตำแหน่งของเค้กให้เป็นรูปออกมาค่ะ  เค้กแบบนี้เป็นเค้กที่ทำได้ไม่ยากและสนุกดีค่ะ


 



 


Happy Birthday ....  นะคะ สำหรับน้องตินติน ขอให้มีความสุขมาก ๆ ค่ะ และก็ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยียนกันนะคะ คราวหน้าจะเอาผลงานตัวอย่างของเค้กวันแต่งงานมาลงให้ดูค่ะ ขอบคุณนะคะ

2/11/53

+++ Artisan Sweets by Kate. : Cherry Blossoms Wedding Cake +++

 




สวัสดีค่ะ ....  เพื่อน ๆ ทุกคนยังคงสบายกันดีอยู่ไหมคะ  ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงจากหน้าฝนไปสู่หน้าหนาวแล้วนะคะ ยังไงก็ขอให้รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
เข้าหน้าหนาวแล้ว .....  ก็ชวนให้คิดถึงเนื้อเพลงที่ว่า “ หนาวเนื้อ ห่มเนื้อจึงหายหนาว “  ก็เลยจะเห็นว่าช่วงหน้าหนาวนี่มีคู่แต่งงานกันเยอะเลย  เอ้า ...  ใครที่ยังไม่มีคู่ก็อย่าเพิ่งเบื่อไปก่อนนะคะ สำหรับงานนี้


 



 


วันนึงก่อนหน้านี้ประมาณ 4-5 เดือนเกดได้รับเมลล์โทรศัพท์จากน้องอุ้มหมี .....  ว่าป้าเกดดดดดด   ป้ารับทำเค้กแต่งงานดอกซากุระไม๊  เพื่อนน้องจะแต่งงาน ....  บลาๆๆๆ  แทบไม่ได้คิดอะไร ตอบตกลงไปในทันทีว่า เออ ...  ชั้นทำ เรื่องราคาไม่ทันได้พูดเลย ตกลงซะแล้ว
เค้กที่น้องชมพู (ชื่อเจ้าสาว) อยากได้เป็นเค้กดอกซากุระ สีชมพู เพราะว่าธีมแต่งงานเป็นสีชมพู ออกแนวญี่ปุ่นน่ารัก เป็นเค้กโฟมเพราะว่าเค้กจริงก็จะทำเป็นเค้กชิ้นเล็ก ๆ ให้กับแขกในงาน


โอ ....  ความฝันเป็นจริงอีกแล้ว หลังจากงานแรกที่เป็นคัพเค้กงานแต่งงานของน้องเอเลน่า ซึ่งเป็นเค้กที่จุดประกายให้เกดไปเรียนการตกแต่งหน้าเค้กที่มาเลเซีย  กลับมาแล้วก็ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันซะทีเลย จากวิชาที่ได้ไปเล่าเรียนมา


ขั้นตอนแรกก็ต้องคิดแบบก่อน ....  ว่าเจ้าสาวอยากได้เค้กแบบไหน  ร่างแบบไว้สี่แบบพร้อมลายเอียด ส่งไปให้เจ้าอุ้มหมีแม่งาน   แล้วก็รอคำตอบว่าชอบแบบไหน


 



 


พอสรุปแบบแล้วก็เตรียมของ  เริ่มจากเค้กโฟมขนาดที่ต้องการ เกดเลือกใช้เค้กโฟมสูง 4 นิ้วขนาดต่าง ๆ กันถึง 7 ก้อน  ได้แก่ 6,8,10,12,14,16,18 นิ้ว  เอามาลองวางซ้อน ๆ กันดู  เฮ้ยใหญ่ไม่ใช่เล่นเลยอ่ะ


 



 


จากนั้นก็ทดลองทำดอกซากุระ ในเฉดสีชมพูอย่างที่เจ้าสาวต้องการคือ อยากได้ดอกซากุระ มีหลายเฉดสีในแต่ละชั้น  สำหรับดอกซากุระก็ทำจาก Gumpaste (Flowerpaste) ที่ทำเองค่ะ ทดลองหลายสูตรเหมือนกัน จนได้สูตรที่ลงตัว  งานนี้ไม่ได้สั่งซื้อแบบสำเร็จเข้ามา เพราะว่าอยากทดลองทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่อาศัยตัวช่วย  แต่ถามว่าจริง ๆ แบบทำเองกับแบบที่ซื้อมานั้นมีความแตกต่างกันบ้างค่ะ แบบสำเร็จรูปนี่จะมีความยืดหยุ่นมากกว่า


 



 


พอทำดอกไม้เรียบร้อยแล้ว ก็จัดการทำแบบส่งให้ทางอุ้มหมีและน้องชมพูตรวจรอบสุดท้ายก่อนการลงมือทำเค้กจริง ๆ ก่อนหน้างานประมาณ 1 อาทิตย์  ที่จริงถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เร็วกว่านี้อีกสัก 3 อาทิตย์ แต่เผอิญมีสอนด้วยแล้วก็ทำเค้กด้วย  จะทันไหนหนอเรา


 



 


แบบเค้กเรียบร้อย .....  ก็เริ่มลุยทำดอกไม้ก่อนเลย ในหลาย ๆ เฉดสี แล้วแต่ว่าผสมสีเข้าไปเท่าไหร่ ที่แน่ ๆ ก็ทำดอกไม้ออกมาประมาณ 2000 ดอก ทั้งเล็กและใหญ่ จัดการใส่กล่อง ใส่สารกันชื้น  ทำเตรียมไว้สำหรับขั้นตอนต่อไป  การทำดอกไม้ก็ใช้เวลาประมาณ 3 วัน  ทำกันจนมือหงิก   พอได้ดอกไม้เยอะแล้วก็จัดการระบายสีเพื่อเพิ่มมิติ และความแตกต่างให้กับดอกไม้ ....  ระบายจนมือหงิกอีกเช่นกัน


 



 


หลังจากนั้นก็จัดการคลุมเค้กบอร์ด หรือว่าที่รองเค้กขนาด 20 นิ้ว  เป็นการรื้อฟื้นการคลึงฟอนดองต์อีกครั้งนึง แต่ว่าถ้าจะให้ดีเกดว่านาจะใช้เป็นซัก 22 นิ้วจะดูสวยกว่านี้  เอาไว้งานหน้านะคะ


 



 


ใช้ริบบิ้นสีชมพูติดขอบให้เรียบร้อย  จากนั้นก็จัดการทำฟอนดองต์เอง  ทำไปโดยรวมแล้วก็ประมาณ 20 กิโลกรัม ทำแบบเผื่อเหลือเผื่อขาดไปเลย นวดกันให้ตายไปข้างนึง  แอบบอกอีกนิดว่าทุกครั้งที่ทำเค้กฟองดองต์ เกดเองไม่เคยทำเลยสักครั้ง  ซื้อตลอด ....  แต่งานนี้ให้ซื้อเอาคงไม่ไหว เนื่องจากปริมาณที่ใช้เยอะมาก ๆ สำหรับจำนวนฟองดองต์สำหรับคลุมเค้กแต่ละก้อนเกดได้จากหนังสือ wedding cake ของ Mich turner


จากนั้นก็จัดการขนทุกอย่างทีคาดว่าจะใช้แพคใส่กล่อง แล้วก้ขับรถมาที่ กทม. เพื่อทำการประกอบเค้ก  ขนลงมาประมาณ 4 กล่องใหญ่


 



 


เริ่มจากการคลุมฟอนดองต์บนเค้กโฟม  ปกติที่เคยเรียนก็จะเป็นเค้กขนาด 8-10 นิ้ว ถ้าเค้กก้อนใหญ่ก็จะแค่ 12 นิ้ว มาคราวนี้มา 18 นิ้ว ....  บอกตรง ๆ ว่ากลัวมาก ๆ คิดว่าถ้าทำไม่ได้นี่ตายแหงมๆ  
เอ้า ...  สูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ อิหนู  แล้วก็จัดการทำโลด  การคลึงเกดเรียงจากขนาดใหญ่ไปหาขนาดเล็กค่ะ


 



 


พอเราทำได้ชิ้นแรกแล้ว ความมั่นใจก็จะมาทันที  ทำก้อนต่อไปเรื่อยๆ  ก้อนที่ 2 , 3 และ 4   เอ้า ...  ขอพักหน่อยค่ะ


 



 


พักแล้วก็มาทำต่อกับก้อนที่ 5, 6, 7  เสร็จแล้ว .....  อยากจะร้องกรี๊ด ว่าเดินทางมาครึ่งทางแล้ว  งานต่อไปก็เป็นงานตกแต่ง


 



 


เริ่มจากการติดเค้กแต่ละชั้นเข้าด้วยกัน ด้วยรอยัลไอซิ่ง  ทำการบาลานซ์เค้ก ให้ด้านซ้ายขวามีระยะเท่า ๆ กันในแต่ละชั้น  ติดดอกไม้ พันริบบิ้น


 



 


บีบรอยัลไอซิ่งเป็นไข่มุกพันรอบ ๆ เค้ก  และช่วยเป็นกาวยึดติดกันในแต่ละชั้น


 



 


ระบายสีดอกไม้ด้วย luster dust อีกครั้งเพื่อให้มีความแววาว ดูบลิ๊งค์ บลิ๊งค์


 



 


เค้กเกดแบ่งเป็น 2 ส่วนเพราะว่าเค้กค่อนข้างหนักและสูง ก็เลยนำไปประกอบที่สถานที่แต่งงานที่ ราชนาวิกสภา ริมแม่น้ำเจ้าพระยา  พอได้เวลาก็เดินทางไปที่งานก่อนงานแต่งจะเริ่มประมาณ 6 ชั่วโมง


 



 


มาถึงที่ราชนาวิกสภา วิวสวยมาก ๆ ค่ะ  ด้านตรงข้ามเป็นวัดพระแก้ว 


 


 


 


ทำการนำเค้กต่อกันเป็นครั้งสุดท้าย ....  ด้วยใจระทึกมาก ๆ ว่าจะเป็นไงบ้าง


 



 


จัดการตกแต่งให้เรียบร้อยทุกขั้นตอน  แล้วนำไปวางบนฐานเค้กที่สั่งทำ


 



 


จากนั้นก็มาช่วยน้องอุ้มหมีตกแต่งเค้ก petit four สำหรับแจกแขกในงาน ......  เค้กเคลือบฟอนดองต์ ที่อุ้มหมีทำเอง  ประมาณ 400  กว่าชิ้น  แปะด้วยดอกไม้จากเกด


 



 


มากันเป็นกองทัพเค้กน้อยยยยย


 



 


งานนี้เป็นธีมสีชมพู .....  ไม่เว้นแม้แต่ดอกไม้  หวานสวยมากๆ


 



 


นำเค้กทอปเปอร์ของน้องชมพูมาวาง ดูน่ารักน่าเอ็นดู   เสร็จแล้วค่ะ  เค้กแต่งงาน 7 ชั้นของน้องชมพู  เสร็จก่อนงานเริ่ม 3 ชั่วโมง  ดีใจสุด ๆ กลัวไม่ทันจริง ๆ เลยเพราะว่าเกดเป็นพวกจัดการเวลาไม่ค่อยดี ชอบประดิดประดอยจนบางครั้งออกแนวฉิดเฉียดเกือบทุกครั้ง


 




ขอขอบคุณน้องฟูและน้องชมพู ที่ได้ให้ความไว้วางใจกับพี่สาวคนนี้นะคะ ที่ให้มีโอกาสได้ทำเค้กให้ในวันสำคัญของชีวิต ขอให้น้องชมพูและน้องฟูเริ่มชีวิตครอบครัวใหม่ได้อย่างราบรื่นและมั่นคง ขอแสดงความยินดีอีกครั้งค่ะ และก็แทงกิ้วอุ้มหมีด้วยนะ ที่หาโปรเจคใหญ่ ๆ ให้พี่ได้ทำจ๊ะ    สำหรับปลายปีนี้เกดเองก็มีเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่แต่งงานอีก 3 คู่ .....  งานนี้ไปจองทำเค้กให้เรียบร้อย อิอิอิ  คงได้เอาผลงานมาให้ได้ดูกันอีกในเร็ว ๆ นี้นะคะ   ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

1/11/53

+++ Artisan Sweets by Kate. : Halloween cake +++




สวัสดีค่ะ .... ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ทำเค้กวันฮาโลวีน น้องเปิ้ลขอให้ทำเค้กฮาโลวีนเป็นเค้กวันเกิดให้น้องสาวค่ะ คุยกันตั้งแต่ปีที่แล้วเป็นดิบดี พอใกล้ถึงวันคนทำดันไม่สบาย ก็พลาดไปซะก่อน มาปีนี้น้องเปิ้ลก็โทรมาบอกกันตั้งแต่ต้นเดือน แต่ก็เกือบไม่ได้ทำเพราะว่าต้องไป กทม. แต่ดันเกิดเหตุฉุกละหุกที่ทำให้ได้กลับบ้านมาก่อนกำหนด ก็เลยได้ทำเค้กฮาโลวีนให้น้องเปิ้ลซะทีค่ะ





น้องเปิ้ลบอกว่า เป็นเค้กอะไรก็ได้ .... ขอแค่ให้เข้ากับ Halloween ขอเป็นเค้กขนาด 1 ปอนด์ เพราะว่าวันนี้น้องเปิ้ลสั่งเค้ก 2 ก้อนค่ะ ... เอามาให้ดูทีละก้อน เดี๋ยวไม่มีอะไรมาอัพจ้า





เนื่องจากเค้ก 1 ปอนด์เป็นเค้กที่มีขนาดเล็ก พื้นที่ในการตกแต่งค่อนข้างน้อย ทำให้คิดหนักเอาการเลยค่ะ นั่งเสิร์ชเวปหาไอเดีย นั่งเปิดหนังสือหาไอเดียอีกเช่นกัน .... การที่เราดูมากอ่านมาก ก็ช่วยได้เหมือนกันนะคะ ในเวลาที่เราต้องการหาไอเดียตกแต่งเค้กใหม่ๆ แล้วนำมาปรับกับการตกแต่งให้เป็นสไตล์ของตัวเอง





รูปขั้นตอนการทำคงไม่มีนะคะ เพราะว่าเวลาแต่งเค้กด้วยครีมแล้วให้ถ่ายรูปไปพร้อม ๆ กัน ... ค่อนข้างเลอะ แล้วก็ใช้เวลาเหมือนกันค่ะ เอาเป็นว่าเกดบอกว่าใช้หัวบีบอะไร ทำยังไงแทนละกันนะคะ


ตัวเค้ก : ปาดเค้กให้ทั่ว ๆ ด้วยบัตเตอร์ครีมสีส้ม อ่อนหรือว่าแก่ แล้วแต่ชอบนะคะ จากนั้นใช้ปลายสเปตตูล่าแตะที่ครีมแล้วดึงขึ้นในแนวตรง ทำให้ทั่ว ๆ เค้ก แบบนี้เร็วกว่าปาดเรียบ ๆ เป็นไหน


Spider web : เกดใช้หัวบีบเบอร์ 2 ที่เป็นหัวกลม ใส่สีดำลงไป แล้วขีดลากให้เป็นใยแมงมุมค่ะ เริ่มจากลากเส้นตรงตัดกันประมาณ 4-5 เส้น ก็จะได้เป็นเส้นโครงก่อน จากนั้นก็ลากตัดแต่ละเส้นให้โค้ง ๆ เพื่อเป็นใยแมงมุมนะคะ


Spider : ใช้หัวบีบเบอร์ 1 หรือว่าตัดกรวยกระดาษก็ได้นะคะ บีบให้เป็นขา 8 ขา จากนั้นก็ใช้หัวบีบเบอร์ 2 ที่เราทำเป็นใยแมงมุมในตอนแรกมาบีบเป็นตัวและหัว บีบตัวให้ใหญ่กว่าส่วนหัวนะคะ





จากนั้นก็มาปั้น ฟักทอง จาก Fondant ค่ะ ปั้นเป็นลูกกลม ๆ จากนั้นก็ใช้มีดปอกผลไม้แบ่งเป็นซีก ๆ แล้วแต่ว่าเราต้องการให้มีกี่ซีกนะคะ ดู ๆ ไปถ้าเป็นสีเหลืองคงเหมือนลูกชุบที่ทำเป็นมะยมแน่ ๆ ค่ะ จากนั้นก็ปล่อยให้แห้งสักคืนนึงก่อนมาแต่งตัวค่ะ การบีบใบและก็ขั้วก็ใช้สีเขียวใส่กรวยบีบค่ะ ขั้วฟักทองก็บีบโดยบีบจากตัวฟักทองแล้วบีบกรวยกระดาษขึ้น เถาฟักทองก็ลากเป็นเส้น ๆ ให้ยึกยือ ส่วนใบ เกดก็ตัดปลายกรวยเป็นใบไม้เอาค่ะ เร็วดี ... แต่ออกมาไม่ค่อยเนี๊ยบ แหะๆ





ภาพเดิมแต่ว่าฉากหลังเป็นสีขาว .... เกดว่าสีดำดูน่ากลัวกว่า เข้ากับวันฮาโลวีนดีค่ะ สำหรับไม้กางเขนก็นำชอคโกแลตไปตุ๋นให้ละลายจากนั้นก็ปาดไปบนพลาสติค รอให้ชอคโกแลตเริ่มแข็งตัวก็ตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดตามที่ต้องการ จากนั้นก็รอให้เย็นตัวและแข็งขึ้น นำมาประกอบกันเป็นไม้กางเขนโดยใช้ชอคโกแลตเป็นตัวเชื่อมอีกทีนะคะ แล้วก็นำไปตกแต่งอย่างที่ต้องการค่ะ





สำหรับเค้กอันนี้เกดว่าถ้าถ่ายให้ฉากหลังเป็นสีแดงหรือว่าสีส้มก็น่าจะสวยกว่า ... จะได้เห็นไม้กางเขนได้ชัดกว่านี้ แต่หมดเวลาถ่ายรูปแล้วค่ะ เพราะว่าน้องเปิ้ลมารับเค้กไปซะก่อน ... หวังว่าน้องเปิ้ลและครอบครัวคงจะชอบเค้กฮาโลวันในปีนี้นะคะ





ขอบคุณนะคะ ..... เดี๋ยวเอาไว้จะเอาแบบการตกแต่งเค้กแบบอื่น ๆ มาให้ได้ดูกันอีกนะคะ บ๊ายบายค่ะ

18/10/53

Artisan Sweets by Kate : Blueberry Cheese Pie




Artisan sweets by Kate : Blueberry Cheese Pie


Blueberry Cheese pie คงเป็นขนมที่ใคร ๆ หลายคนติดใจในรสชาติความเปรี้ยวหวานจากครีมชีสและบลูเบอร์รี่กวน ที่เห็นขาย ๆ กันอยู่ก็จะเป็นก็จะชอบทำในถาดฟอยล์ เวลาทานแล้วบางทีไม่ค่อยจุใจเท่าไหร่กับครีมชีสบาง ๆ แล้ววางแปะด้วยบลูเบอร์รี่อีก 4-5 ลูก


สำหรับวันนี้ได้โจทย์จากพี่สาวใจดี เจ้าของร้านอาหารเกาหลีอร่อยมากๆ ในเมืองเชียงใหม่มาว่า อยากได้เค้กสำหรับแฮปปี้เบิร์ทเดย์ลูกชายครบรอบอายุ 1 ขวบค่ะ ลูกชายชอบทานบลูเบอร์รี่พายมาก ๆ





เล็ก ๆ ไม่ ใหญ่ ๆ ชอบทำ ..... ตอนแรกจะทำใส่ถาดฟอยล์ดูค่ะ ... คิดไปคิดมาก็คิดว่า ถ้าเป็นถาดก็คงได้ครีมชีสนิดเดียว ไม่สะใจคนทำ ไม่ได้คำนึงถึงคนกินสักเท่าไหร่ ก็เลยทำฐานพายจากคุกกี้โฮมเมด นำไปบดให้ละเอียด เติมเกลือ และก็เนย นำไปกรุใส่พิมพ์ถอดก้นได้ กรุให้สูง ๆ ตามใจชอบ แล้วก็นำเข้าอบค่ะ





ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วนำเข้าตู้เย็นให้ฐานพายเซตตัวค่ะ จากนั้นก็ตีครีมชีส นมข้นหวาน น้ำเลมอน .... ชิมรสตามชอบ จากนั้นก็เทใส่ฐานพายที่อบเสร็จแล้ว แช่ให้เย็นจนชีสพายเซตตัว





นำชีสพายออกจากพิมพ์ .... เวลานำไปให้ก็บีบวิปครีม ราดด้วยบลูเบอร์รี่กวน เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสำหรับ บลูเบอร์รี่ชีสพาย by Artisan Sweets by Kate

14/10/53

+++ Artisan Sweets by Kate. : Doraemon cake +++




สวัสดีค่ะ ..... วันนี้เอาเค้กมาให้ได้ดูกันอีกแล้วค่ะ ปกติก็จะเห็นเกดทำเค้กเป็นดอกไม้ซะส่วนมาก ไม่ค่อยเห็นทำเป็นเค้กการ์ตูนแบบนี้สักเท่าไหร่เลยเนอะ ว่าไปแล้วก็ไม่เคยทำจริง ๆ นั่นแหละค่ะ


วันนี้มีรีเควสต์มาจากคนใกล้ตัวว่าอยากได้เค้กเด็ก ๆ สำหรับลูกชายค่ะ ครั้นจะทำอะไรยาก ๆ ก็กลัวว่าจะทำไม่ได้ ก็เลยขอเริ่มง่าย ๆ จากการทำเป็นเค้กโรมอนละกันนะคะ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่คงชอบใจเค้กนี้แน่ๆ





สำหรับเค้กที่ใช้ก็เป็นเค้กสปองจ์แบบไม่ใส่ เอสพี และก็ผงฟูค่ะ .... วันนี้ทดลองทำสูตรใหม่อีกสูตรนึงค่ะ ปรากฏว่ารสชาติดีทีเดียวค่ะ แต่คงต้องปรับเรื่องการตีและการอบอีกเพื่อให้ลงตัว สำหรับบัตเตอร์ครีมเกดเลือกใช้เป็นสวิสบัตเตอร์ครีมค่ะ เนียนอร่อยไม่มีเนยขาว ตัวเค้กก็จะสไลด์เป็น 3 ชั้น ปาดบัตเตอร์ครีมบาง ๆ พอให้ทานแล้วไม่เลี่ยนเกินไป





จากนั้นก็ปาดเค้กให้เรียบกลมด้วยสวิสบัตเตอร์ครีมค่ะ ปกติเกดจะชอบที่เอาด้านก้นของเค้กขึ้นมาเป็นด้านบนเค้กนะคะ สำหรับการปาดบัตเตอร์ครีม เพราะว่าเวลาปาดจะง่ายกว่าใช้ด้านหน้าของเค้กค่ะ





ปาดแบบใช้สปาตูล่าค่ะ ไม่ได้ใช้หัวบีบเป็นตัวช่วย .... Smiley ตอนนี้พยายามเร่งสปีดสำหรับการปาดเค้กให้เร็วขึ้นค่ะ ต้องทำบ่อย ๆ ก็จะเร็วขึ้นค่ะ เรื่องแต่งหน้าเค้กถ้าใครทำบ่อยยิ่งได้เปรียบค่ะ เพราะว่าจะทำให้เราคุ้นกับการบีบว่าควรใช้น้ำหนักมือเท่าไร ใครที่ยังไม่เคยทำก็ลองดูนะคะ ทำบ่อย ๆ ก็จะเก่งเองค่ะ





ขอบล่างก็บีบด้วยหัวบีบเบอร์ 21 ถ้าไม่มีก็ใช้เบอร์ 22 หรือว่าเบอร์ 32 ก็ได้นะคะ บีบเป็นขอบล่างเค้กค่ะ สำหรับขอบบนไม่ต้องค่ะเพราะว่าวันนี้เราทำเป็นเค้กที่บีบด้วยหัวบีบเบอร์ 14 บีบจนเต็มพื้นที่ค่ะ





สำหรับหัวบีบดาวเบอร์ 14 อาจจะเลือกใช้เป็นหัวบีบเอบร์ 16 แทนก็ได้นะคะ งานนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ หัวใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็ทำให้บีบได้ง่ายและเร็วขึ้น ส่วนเส้นที่ตัดเป็นขอบก็ใช้หัวบีบกลมเบอร์ 2 ค่ะ สำหรับการผสมสีเกดเองก็ยังมีปัญหาอยู่ค่ะ การผสมสีให้ได้ตามที่ชอบค่อนข้างยาก คงต้องปรับปรุงเพื่อให้ได้สีเหมือนจริงค่ะ





จากนั้นก็นำเค้กใส่กล่องผูกโบว์ค่ะ .... สำหรับตอนนี้ยังขาด Tag เท่านั้นที่ยังไม่เรียบร้อยในตอนนี้ เอาเป็นว่าคงค่อย ๆ จัดการไปค่ะ โบว์ที่ใช้นี้น่ารักดีค่ะ มีโอกาสไปซื้อกับพี่เหมียวมา ตอนที่ไป กทม. คราวที่แล้ว ซื้อมาเยอะมากกกกกกก ..... จนคุณสามีถามว่านี่จะเอาไปใช้ทั้งปีทั้งชาติเลยเหรอ หรือว่าจะเอาไว้ผูกคอตัวเองฮึ ก็กลัวว่าซื้อมานิดเดียวก็ไม่มีแล้วก็หาไม่ได้อีกนี่นา


เรื่องโบว์ก็เคยคิดเหมือนกันว่าอยากทำโบว์แล้วสกรีนชื่อไว้ ... แต่คาดว่าคงจะไม่ไหวเพราะว่าไม่ได้เปิดขายขนมเป็นร้าน ก็เลยต้องงดไป เหมือนอย่างกล่อง .... ตอนแรกก็กะว่าจะสั่งกล่องมาใช้สำหรับตัวเองโดยเฉพาะอีกแล้ว ถามน้องที่รู้จักกัน เค้าก็บอกว่าต้องสั่งทีละเยอะ ๆ ถึงจะคุ้ม ครั้นเราจะสั่งแค่ร้อยกล่องก็กลัวว่าค่าขนมที่ขาย ๆ จะกลายเป็นกล่องไปซะครึ่งนึง ก็เลยต้องพับโครงการไปอีก ไป ๆ มา ๆ ก็เลยมานั่งทำกล่องเองดีกว่า ...... ราคาก็พอ ๆ กับที่เค้าขายแพง ๆ ค่ะ แต่ว่างานเราเป็นแฮนด์เมดเนอะ สรุปก็มีเรื่องแก้ตัวได้อีกเหมือนเดิม


ยังไงก็ขอขอบคุณเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนที่สอบถามเรื่องเรียนแต่งหน้าเค้กมานะคะ เอาไว้พร้อมจริง ๆ ก็คงจะได้แจ้งให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกันนะคะ ตอนนี้ก้คงต้องขอฝึกปรือฝีมือไปพลาง ๆ ก่อนค่ะ ขอบคุณทุก ๆ คนนะคะ