ไข่พะโล้ต้มโค้ก

เสาร์นี้อารมณ์ดีค่ะ... เพราะพี่หนุ่มหยุดงานค่ะ หลังจากที่งานยุ่งทุกวัน ... กลับบ้านเกือบสองสามทุ่ม แหะๆๆ... เมื่อวานสี่ทุ่มค่ะ รอจนเบื่อเลยค่ะ ยังดีที่ได้ทำกับข้าวไว้รอ ซึ่งที่จริงเมนูนี้เกดกะว่าจะทำไว้เมื่อวานค่ะ แล้วมาทานวันนี้ เพราะว่า ไข่พะโล้ต้มไว้แล้วทานอีกวันจะอร่อยกว่านะคะ สำหรับสูตรนี้เกดดัดแปลงมาจาก ไข่พะโล้ต้มโค้ก สูตรพี่ตา ผ้าไหมไทย สามารถคลิกไปดูได้เลยนะคะ แต่ว่าพี่หนุ่มกลับดึกค่ะเมื่อวานก็เลยทานไปซะแล้ว ยังดีนะคะที่ถ่ายรูปไว้ก่อนไม่อย่างนั้นคงไม่มีมาลงบลอกแน่ ๆ เลย

วันนี้เกดใช้ไข่เบอร์เล็กสุดค่ะ เป็นเบอร์ 4 มั๊งคะ ไม่แน่ใจเหมือนกัน นึกครึ้มอกครึ้มใจอะไรก็ไม่รู้ อยากทำไข่พะโล้ที่ใส่ไข่ใบเล็ก ๆ ค่ะ เล็กกว่าที่ทานปกติเกือบครึ่งค่ะ เวลาที่ตักใส่ชามแล้วไข่เท่ากับเนื้อหมูเลย แต่ก็ดีค่ะ เพราะจะได้ทานที 2 ใบ เพราะปกติกินใบเดียวก็อิ่มแล้ว.....

มาดูส่วนประกอบและสูตรกันนะคะ อยากจะบอกว่าเกดดัดแปลงสูตรของพี่ตา บ้างนะคะ แต่ว่าตอนที่ใช่เครื่องปรุงต่าง ๆ เกดไม่ได้ใช้ช้อนตวงค่ะ ....เลยไม่มารถบอกได้ค่ะว่าใส่อะไรลงไปเท่าไหร่ เป็นการประมาณเอานะคะในสูตรที่ให้ค่ะ ต้องขอโทษจริง ๆ ค่ะ
สูตร ไข่พะโล้ต้มโค้ก ดัดแปลงจากพี่ตาผ้าไหมไทย
1. หมูสามชั้น 500 กรัม
2. โค้กซีโร่ 1.25 ลิตร
3. น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
4. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
5. เกลือ 2 ช้อนชา
6. ผงพะโล้ 2 ช้อนชา
7. กระเทียมจีนปอกเปลือก 5 กลีบ
8. พริกไทย 1 ช้อนชา
9. รากผักชี 2-3 ราก
10. น้ำมันพืช 2 ช้อนชา
11. ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
12. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
13. น้ำเปล่า พอประมาณ เอาไว้เติมขณะที่เคี่ยวหมูให้สุกนุ่ม
14. ไข่ต้ม ตามที่ต้องการ

หมายเหตุ...... ขอย้ำอีกทีนะคะ ว่าถ้าจะทำอยากให้ค่อย ๆ ใส่พวกสารที่ให้ความเค็มต่าง ๆ ทีละน้อย ไม่ต้องใส่หมดนะคะ ค่อย ๆ ชิมรสแล้วค่อยปรุงตอนอีกทีตอนที่หมูสุกนุ่มได้ที่แล้วค่ะ

ขั้นตอนการทำ ไข่พะโล้ต้มโค้ก
1. ล้างหมูสามชั้นให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นขนาดที่ต้องการ
2. หั่นรากผักชีให้เป็นชิ้นเล็ก หั่นกระเทียม โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย และเกลือนิดหน่อย ให้พอละเอียด

3. ใส่น้ำมันพืชลงในหม้อ นำรากผักชีกระเทียมพริกไทย ที่โขลกเตรียมไว้มาผัดรวมกับผงพะโล้ ผัดให้มีกลิ่นหอม
4. ใส่เนื้อหมูที่เตรียมไว้ลงไป ผัดให้เข้ากัน

5. ใส่น้ำตาลปี๊บ ลงไปผัดให้น้ำตาลละลาย เกดใส่ประมาณในรูปนะคะ เพราะว่าเดี๋ยวก็จะมีความหวานจาก โค้กที่เราเติมลงไปอีกค่ะ ไม่ต้องใส่มากนัก

6. ใส่เครื่องปรุงที่เหลือ ได้แก่ น้ำมันหอย ซีอิ๊วดำ เกลือ ซีอิ๊วขาว ลงไป ผัดให้เข้ากัน จากนั้นจึงเติมโค้กซีโร่ลงไปนะคะ ระหว่างเติมให้ระวังฟองด้วยค่ะ ค่อย ๆ เติม เติมเสร็จจะเห็นเป็นฟองโค้กลอยอยู่ด้านหน้าไม่เป็นไรนะคะ ต้มไปเรื่อย ๆ ก็จะหายไปเองค่ะ

7. ต้มไปเรื่อย ๆ เพื่อให้หมูสุกนุ่มนะคะ โดยใช้ไฟกลางค่ะ ถ้าหากว่าน้ำลดลงไปก็สามารถเติมน้ำเปล่าลงไปได้นะคะ เคี่ยวหมูจนนุ่มเท่าที่เราต้องการ ของเกดสังเกตุเอาจากที่ใช้ส้อมจิ้มแล้วผ่านเนื้อหมูไปได้แบบไม่ต้องออกแรงมากค่ะ

8. ระหว่างต้มควรช้อนฟองและน้ำมันออกด้วยนะคะ จะได้ไม่มีมันปนในน้ำมากนัก ยิ่งเป็นสามชั้นแบบที่เกดใช้นี้ยิ่งมีมันลอยค่อนข้างเยอะเชียวค่ะ ระหว่างที่รอให้หมูสุกนุ่ม ก็จัดการต้มไข่เลยนะคะ วันนี้เกดใส่เยอะหน่อย 7 ใบเลยค่ะ แต่เป็นลูกเล็ก ๆ นะคะ ต้มไข่ในน้ำเดือดประมาณ 10 นาทีก็จะได้ไข่ต้มแบบแข็งค่ะ จากนั้นก็นำมาปอกเปลือกนะคะ แล้วใส่ไปในพะโล้ที่เราต้มไว้เลยค่ะ น้ำพะโล้จะช่วยให้สีของไข่เป็นสีน้ำตาออ่อนแล้วก็จะทำให้ไข่แข็งขึ้นอีกค่ะ

พอสุกได้ที่แล้วก็ตักใส่ชามทานได้เลยนะคะ แต่อย่างที่บอกไว้ค่ะ... ทิ้งไว้สักคืนจะยิ่งอร่อยค่ะ รับไข่พะโล้สักถ้วยไหมคะ

ให้เห็นหมูสามชั้นแบบชัด ๆ หน่อย... ว่าทานแบบนี้แล้วมันอ้วน อิอิอิ เกดชอบใช้หมูสามชั้นค่ะ เพราะว่าเวลาที่ทานจะอร่อยกว่าทานหมูเนื้อแดงค่ะ แต่ทานจริง ๆ ก็จะเขี่ยมันออกไว้ข้าง ๆ จาน หุหุหุ แต่พี่หนุ่มสิคะ ทั้งหนังทั้งมัน ทานคำเดียวพร้อมกัน ... เค้าบอกว่าอร่อยนุ่มลิ้นค่ะ

เจ้าไข่สองใบนี้ขนาดเท่าๆ กับเนื้อหมูเลย อิอิอิ..... บอกแล้วว่าไข่ใบเล็ก ตอนที่ไปซื้อเกดก็ถามพี่พ่อค้านะคะ ว่าทำไมใบเล็กจัง พี่เค้าก็บอกว่าเป็นเพราะว่าเป็นไข่ชุดแรกของไก่สาว ได้ยินอย่างงั้นก็เลยรีบซื้อมาค่ะ เผื่อทานแล้วจะได้เอ๊าะๆๆ กับเค้าบ้าง

จานนี้เป็นจานที่เกดทานเองค่ะ......ไข่สองข้าวหนึ่งแถมหมูอีกหน่อย.... แบบี้ต้องราดน้ำไข่พะโล้ให้ชุ่ม ๆ อร่อยแบบถึงใจเลยค่ะ ทานไปน้ำพะโล้ไม่พอเกดยังไปราดเพิ่มเลยค่ะ

ให้ดูอีกภาพเผื่อว่ายังไม่อิ่มนะคะ.... พี่น้อง

อยากให้เพื่อน ๆ ลองทำดูนะคะ.... เกดว่าไม่ยากค่ะ ถ้าใครที่ใช้เป็นโค้กหรือว่าเป๊บซี่แบบธรรมดาก็อาจจะไม่ต้องใส่น้ำตาลเพิ่มนะคะ เพราะว่าเกดว่าแบบนั้นหวานกว่าซีโร่ค่ะ.... อาจเลี่ยงไขมันในหมูสามชั้นไปใช้หมูเนื้อแดงแทนก้ได้นะคะ อาจจะเคี่ยวน้อยกว่าด้วย แต่อร่อย ... เกดขอยกให้สามชั้นค่ะ อิอิอิ ยังไงก็เชียร์ เวลาปรุงรส ... อย่าลืมนะคะ ว่าเริ่มจากน้อย ๆ ก่อน แล้วค่อยเคี่ยวให้เข้าเนื้อ จากนั้นค่อยปรุงรสอีกครั้งก่อนยกออกจากเตาค่ะ จะได้ไม่ผิดพลาดเวลาที่เราทำนะคะ เพราะว่าน้ำพะโล้จะงวดลงเรื่อย ๆ เพราะบางครั้งถ้าเราปรุงไว้พอดีตั้งแต่แรก มันอาจจะเข้มข้นเกินไปหน่อยค่ะ แต่ไม่เป็นไรเข้มไปก็เติมน้ำได้นะคะ หวังว่าวันนี้เพื่อน ๆ คงได้อิ่มอร่อยกับ ไข่พะโล้ต้มโค้ก กันนะคะ


Special Thanks To......

พี่ตา ผ้าไหมไทย .... สำหรับสูตร ไข่พะโล้ต้มโค้ก แสนอร่อยค่ะ