11/7/58

+++ Korea Trip ... การไปเรียนบีบบัตเตอร์ครีมดอกไม้สไตล์เกาหลี ตอนที่ 2 +++

สวัสดีค่ะ มาอ่านต่อกับตอนที่ 2 เลยนะคะ ต้องขอขอบคุณกับเพื่อน ๆ ที่มาอ่านกันในตอนที่ 1 นะคะ 
ขอฝากลิงก์สำหรับเฟซบุคของมี๊ด้วยนะคะ https://www.facebook.com/ArtisanSweetbyKate   
สำหรับอินสตาแกรมก็สามารถติดตามได้ที่ @ArtisanSweetbyKate




หลังจากที่มาได้มาอยู่ที่เกาหลีสองวันแล้ว อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อน เช้านี้เป็นวันอาทิตย์ ... มี๊ก็ได้ทานข้าวเช้า ความรู้สึกยังคงตื่นตาตื่นใจกับอาหารเกาหลีกก็ยังคงมีอยู่ ใครที่ว่าอาหารเกาหลีไม่เผ็ด จะจืด ๆ เหมือนอาหารญี่ปุ่นนี่คิดผิดถนัดเลยนะคะ แซ่บปากพอง (ทางเหนือเรียกว่า ปากบึน) ได้เลยในบางมื้อ วันนี้มี๊ทานข้าวกับเต้าหู้ราดซอสพริกเผ็ด ๆ เค็ม ๆ ผัดเนื้อใส่เห็ด ต้มจืดเป็นต้มถั่วงอกใส่เต้าหู้ปลา ข้าวเช้าเราก็จะทานกิมจิที่มีหลากหลายมาให้เลือกทุกมื้อ   

สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างของการมาในครั้งนี้คือน้ำซุปของเกาหลีอร่อย เคยถามครูผู้สอนว่าซุปทำจากอะไรบ้าง น้ำซุปจะมีปลาแห้ง หัวหอม ต้นหอม ประมาณนี้ค่ะ รสชาติเหมือนซุปที่ทานที่บ้านตอนเด็ก ๆ สมัยยังไม่มีคนอร์ก้อน



คลาสในวันที่ 2 จะเรียนบีบดอกไม้ 6 ชนิดค่ะ ... เพิ่มขึ้นมาจากวันแรก 3 ชนิด และต้องเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับความยาก ตาย ๆ แล้วมี๊จะไหวไหมคะเนี่ย 5555 

คลาสเบสิคบัตเตอร์ครีมวันที่ 2 : กุหลาบวิคตอเรียน, คาร์เนชั่น, แอนีโมนี, ริบบอนโรส, สตอค และคามิลเลีย คุณครูมารับที่เก่าเวลาเดิม แปดโมงครึ่ง ไปถึงสตูดิโอก็เริ่มจากตีครีมเช่นเคย สองป้าก็นั่งเชคอินเตอร์เนต คุยกับลูกกับสามี เพราะว่าเป็นเวลาเจ็ดโมงเช้าที่ไทยพอดี ลืมบอกไปว่า เวลาที่เกาหลีจะเร็วกว่าที่เมืองไทยประมาณ 2 ชั่วโมงนะคะ

คุณครูตีครีมเสร็จ ก็เริ่มให้เราทบทวนที่บีบไปเมื่อวานก็คือ ดอกกุหลาบ พอบีบไปได้สองสามดอก ครูดูว่าโอเคผ่านได้ก็เริ่มสอนดอกใหม่ทันที วันนี้เริ่มจากการบีบวิคตอเรียนโรส ดอกเล็ก ๆ ดูน่ารัก วันนี้วิธีบีบแต่งต่างจากเมื่อวานอีกแล้ว !!! แต่ก็พยายามที่จะบีบให้สำเร็จ



พอครูเห็นบีบกันได้เยี่ยงนี้แล้ว ....  จัดกองทัพมาให้กันเลยค่ะ ตามมาด้วยคามิลเลีย ริบบอนโรส ส่วนตัวชอบริบบอนโรสมาก เห็นแบบนี้ไม่ง่ายเลยนะคะ ที่จะทำให้กลม ๆ ดูกลมดิ๊ก เรื่องของความสูงอีก จริง ๆ มี๊เคยหัดทำค่ะ เมื่อนานมาแล้ว ผลที่ได้ไม่ต้องคาดเลย เบี้ยว ไม่นิ่ง 555  มาที่นี่แล้วทำให้บีบได้ ใจนี้มันพองโตจริง ๆ ค่ะ ดอกบนด้านซ้ายมือที่เห็นกริ๊บ ๆ แบบนี้ฝีมือครูนะคะ



ตามมากด้วยคาร์เนชั่น สตอค แอนีโมนี เจ้าดอกสตอคและแอนีโมนีนี่บีบกันชิล ๆ มาก อะไรที่เป็นแบน ๆ มี๊ชอบ คาร์เนชั่นนี่มีการงงกับทิศทาง ปกติขับรถก็ไม่เคยหลงนะคะ แต่มันงงได้จริงๆ ผู้หญิงกับทิศทาง 555 บีบไปได้สักพักครีมก็ไปแล้วค่ะ อย่างที่บอกครีมที่ใช้ในคลาสเป็นอิตาเลียนเมอร์แรงก์บัตเตอร์ครีม บีบไปได้พักเดียวเริ่มเหลว มันไม่ง่ายเลยกับการเรียนที่ต้องแข่งกับเวลาที่ครีมพร้อมจะเหลวได้ทุกเมื่อ 

และแล้วก็ถึงเวลาที่นักเรียนรอคอยคือเวลาทานอาหาร ต้องยอมรับว่าคุณครูกะเวลาที่ใช้สอนได้ดีเยี่ยม เป๊ะ ๆ เกือบทุกวัน วันนี้อยากลองทานก๋วยเตี๋ยวบ้าง ก็เลยสั่งจัมปง



จริง ๆ จัมปงเป็นบะหมี่ทะเลของญี่ปุ่น หรือว่าที่เรียกกันว่านางาซากิจัมปง แต่ว่าจัมปงสไตล์ญี่ปุ่นจะเป็นบะหมี่เส้นอ้วนคล้าย ๆ โกยซีหมี่บ้านเรา ลวกแล้วราดน้ำซุปกระดูกหมูกระดูกไก่ที่เคี่ยวเป็นเวลานานจะน้ำซุปกลายเป็นสีขาวขุ่นแบบที่เราเห็นกันชินตาในร้านราเมง ส่วนเครื่องราดหน้าจะเป็นอาหารทะเลมาผัดกับผักต่าง ๆ เช่นกะหล่ำปลี ต้นหอม เห็ดหูหนู ถั่วงอก เท่าที่อ่านมานะคะจะเป็นบะหมี่ที่ดัดแปลงมาจากอาหารจีนของฟูเจี้ยนค่ะ แล้วมีเจ้าของร้าน Shikairo ที่เมืองนางาซากิมาจัดการดัดแปลงขายให้กับชาวจีนที่มาเรียนมาทำงานที่ญี่ปุ่น ยังคงได้ทานอาหารจีนแบบถูกๆแต่คับชาม แต่บางคนก็บอกว่าเกิดมาจากนักศึกษาจีนที่มาเรียนที่ญี่ปุ่นหัดทำทานกันเอง หน้าตาของจัมปงญี่ปุ่น


เครดิตภาพจาก Facebook : Yummy Adventure นะคะ

ส่วนจัมปงของเกาหลี .... แซ่บค่ะ แซ่บคักคัก เป็นตาแซ่บ อิหลีกะด้อกะเดี้ย  ทานของร้อนที่เผ็ดนี่เข้าขั้นน้ำตาซึมเลย ใครว่าพริกแดง ๆ นี่ไม่เผ็ดอยากให้ได้ลองดูค่ะ ขนลุกซู่ ของทะเลที่ใส่มาจะเน้นหอยค่ะ สดสะอาดไม่เหม็นเลย



ของคุณครูกับพี่สาวสั่งเป็นหมี่ดำ หรือที่เรียกว่าจาจังเหมี่ยน เป็นบะหมี่ราดน้ำสีดำ หวาน ๆ เค็ม ๆ อร่อย ใส่หอมหัวใหญ่




ทานข้าวกลางวันเสร็จ แอบมีง่วงนอนเล็ก ๆ ด้วยค่ะ คุณครูให้เลือกสีว่าวันนี้จะใช้สีอะไร  สีแดงมาเลยค่ะเพราะว่าดอกคามิลเลียจะมีสีแดง สีขาว รู้จักมาตั้งแต่เด็กเพราะว่าชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น เห็นเจ้าดอกนี้มาตั้งแต่ยังเป็นขาวดำ ครูผสมมาให้มีสีแดง สีม่วง สีชมพูฟิวเชีย สีเหลือง สีมาครบก็จัดการบีบ บีบ และบีบ



บีบได้ครบตามจำนวนเราก็มาเริ่มจัดวางดอกไม้เล็ก ๆ ที่น่าทะนุถนอมของเราลงไป สักพักงานก็เสร็จเรียบร้อย ริบบอนโรสเวลาที่อยู่บนคัพเค้กมันช่างดูน่ารักจริง ๆ



วิคตอเรียนโรสสีครีมและสีชมพูฟิวเชีย เจ้าสีชมพูฟิวเชียจริง ๆ ออกออกเป็นสีชมพูม่วง ไม่รู้ว่าชื่อสีนี้มาจากสีของดอกฟิวเชียหรือว่าที่บ้านเราเรียกว่าดอกโคมญี่ปุ่นด้วยหรือเปล่านะคะ



ต่อไปเป็นดอกแอนีโมนี ดอกที่เห็นส่วนใหญ่จะมีสีขาว สีแดง สีเหลือง แต่มีจุดเด่นที่ตรงกลางเกสรเป็นสีดำ



อันนี้เป็นดอกสตอค (Stalk) พยายามลองหาในกูเกิลดูแล้วก็ยังไม่เห็นมีดอกไหนที่หน้าตาประมาณนี้  หรือว่าจะเป็นดอกไม้ในจินตนาการ ใครที่พอจะรู้ก็ช่วยบอกมี๊ด้วยนะคะ


สำหรับคาร์เนชั่น ดอกไม้ที่ทำให้ปวดหัวในทิศทางการบีบของเธอก็ออกมาแบบไม่ทำให้มี๊ผิดหวัง แม้จะไม่ถูกต้องเป๊ะตามหลักการ แต่ก็ออกมาได้แบบน่ารัก คาร์เนชั่นถูกใช้เป็นตัวแทนของดอกไม้ที่ให้กันวันแม่ในหลาย ๆ ประเทศด้วยนะคะ



เนื่องจากว่าวันนี้เราได้บีบบนเค้กจริง ๆ คุณครูก็ได้เอาใส่กล่องให้กลับไปทานที่บ้านด้วย ... แต่ใครจะกล้าทาน 555 สรุปเจ้าคัพเค้กถูกแช่อยู่ในตู้เย็นจนถึงวันเดินทางกลับ



ภาพนี้เป็นของพี่สาวที่ไปเรียนด้วยกัน เป็นคนที่บีบกุหลาบสวยมาก นับถือ นับถือ



เรียนเสร็จก็เป็นเวลาที่น่าตื่นเต้นของสองป้า ... ทุกวันตอนเรียนไม่ค่อยสนใจ มัวแต่คิดว่าวันนี้เราจะไปทานอะไรกันดี ร้านนี้เล็งๆไว้ตั้งแต่วันที่ไปทานขนมเมื่อวาน ด้วยความที่มีรูปปลาหมึกยักษ์แปะไว้หน้าร้าน มี๊เป็นคนชอบทานปลาหมึกจะพลาดได้เหรอ ไม่รู้ว่าอะไรแหละมีปลาหมึกก็ทานก่อน ยิ่งเป็นหมึกชุบแป้งทอดนะ .... กรี๊ดเลย


เข้าไปที่ร้าน เด็กในร้านพูดอังกฤษไม่ได้ เอาละเหวยตรูจะทานอะไร สั่งอะไร ดูเมนูก็มีแต่ภาษาเกาหลี งานนี้เลยอาศัยการจิ้ม ร้านอาหารที่นี่ส่วนใหญ่หลาย ๆ ร้านจะไม่สามารถทานคนเดียวได้ ต้องมาเป็น 2 คน จานนึงเค้าจะให้ทานด้วยกันโดยจะมีปริมาณอาหารมาพอดีสองคน เห็นรูปข้างบนมีใครเดาได้หรือยังคะว่าเป็นอะไร ให้ดูอีกรูป


เฉลยค่ะ ...  อาหารจานนี้คือต๊อกโบกี ที่สาว ๆ หลาย ๆ คนชอบทานกัน
ต๊อกโบกี (Tukbokki) 떡볶이ทำมาจากแป้งและนำมาผัดพร้อมราดด้วยซอส ซึ่งคำว่าต๊อก()แปลว่า แป้งที่ทำจากข้าว ส่วนคำว่าโบกี(볶이)แปลว่า นำมาผัด ต๊อกโบกีเป็นอาหารว่างที่ได้รับความนิยมโดยทั่วไป ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านหรือรถเข็นริมทาง แต่เดิมเรียกว่าต๊อกจิมและยังสามารถนำมาใส่ในเค้กข้าว (rice cake) ได้ กลายเป็นต๊อกกุก(ซุปเค้กข้าว) ซึ่งจะนิยมรับประทานในวันขึ้นปีใหม่ด้วย
ข้อความในวงเล็บนำมาจาก  http://www.meetawee.com/home/introduce-korea/1489-tukbokki.html



และก็จบไปอีกตอนแล้วนะคะ กับตอนที่ 2 เรื่องเรียนไม่ค่อยมีอะไร ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องกินมากกว่า ยิ่งอ่านไปยิ่งจะเห็นว่าตกลงมี๊ไปทำอะไรกันแน่ 555 ก็ทั้งเรียนทั้งกินค่ะ เสียดายตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะกลับมาเขียนบลอกอีกครั้ง เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปอะไรมาให้ได้ดูบรรยากาศของเกาหลี ต้องขออภัยด้วยนะคะ ไว้เจอกันตอนที่  3 นะคะ






6 ความคิดเห็น:

  1. อ่านแล้วสนุกไปด้วยเลยค่าาาพี่เกด =D

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมากเลยจ้า ^^ กำลังปั่นตอนที่ 3 นะคะ อาทิตย์หน้ามีงานยาวเลย

      ลบ
  2. อ่านแล้วเพลินสนุกค่ะ ขนมสวยมาก อาหารก็น่าอร่อยค่ะ^^

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ อ่านเพลิน ๆ นะคะ

      ลบ
  3. ขอบคุณคร้าบคุณครูเกด

    ตอบลบ